เอเอฟพี - ปากีสถานและสหรัฐฯ กำลังปรากฏร่องรอยความขัดแย้งกันในเรื่องยุทธศาสตร์การทหารเพื่อไล่ล่าและทำลายกลุ่มอัลกออิดะห์ โดยกรุงวอชิงตันมีท่าทีที่จะทำสงครามแบบครอบคลุมพื้นที่ชายแดนอัฟกานิสถาน-ปากีสถานทั้งสองฝั่ง ชนิดไม่รอคำอนุญาตจากกรุงอิสลามาบัด
หลังเหตุการณ์สั่นสะเทือนโลก "11/9" ผ่านไปแล้วถึง 7 ปี กองกำลังผสมที่มีสหรัฐฯ เป็นผู้นำจำนวนหลายหมื่นนายก็ยังตรึงกำลังอยู่ในอัฟกานิสถาน เพื่อหาทางจัดการกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์และกลุ่มตอลิบานที่ใช้พื้นที่ชายแดนอัฟกานิสถานและปากีสถานเป็นแหล่งกบดาน ภายหลังการล่มสลายของระบอบอิสลามหัวรุนแรงในอัฟกานิสถานเมื่อปลายปี 2001
พลเรือเอกไมเคิล มุลเลน ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันพุธ (10) ว่า เขาได้สั่งการให้ใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ที่ครอบคลุมพื้นที่ชายแดนทั้งสอง
"ผมไม่เชื่อว่าเรากำลังชนะในอัฟกานิสถาน แต่ผมเชื่อว่าเราสามารถเอาชนะได้" มุลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งรัฐสภาอเมริกันในวอชิงตัน
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ฉบับวานนี้ (11) รายงานว่า ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ลงนามอนุมัติอย่างลับๆ ในคำสั่งที่ทำให้กองกำลังปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯ สามารถปฏิบัติการภาคพื้นดินในปากีสถานได้โดยไม่ต้องรอการอนุญาตจากรัฐบาลในกรุงอิสลามาบัดแต่อย่างใด
รายงานของนิวยอร์กไทมส์ดังกล่าว ปรากฏออกมาหลังจากที่มีการยิงขีปนาวุธชุดหนึ่งเข้าใส่กองกำลังของกลุ่มก่อการร้ายในปากีสถาน ซึ่งคาดว่าเป็นฝีมือของกำลังทหารผสมภายใต้การนำของสหรัฐฯ และหน่วยซีไอเอที่ประจำอยู่ในอัฟกานิสถาน ทว่า ขีปนาวุธดังกล่าวได้ทำลายชีวิตทั้งพลเรือนและทหาร จึงทำให้ประชาชนปากีสถานต่างโกรธแค้น และรัฐบาลกรุงอิสลามาบัดรู้สึกอับอาย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปากีสถานจึงได้ออกมากล่าวหาเป็นครั้งแรกว่ากำลังทหารที่ประจำในอัฟกานิสถานดำเนินการจู่โจมดินแดนของตนโดยตรงในพื้นที่เซาท์วาซิริสถานซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 15 ราย
นอกจากนั้น ในวันพฤหัส พลเอกอาชฟาค กายานี ผู้บัญชาการทหารบกของปากีสถานก็ได้ออกแถลงการณ์ประณามการจู่โจมดังกล่าวอย่างรุนแรง และยืนกรานว่า ยังไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่จะอนุญาตให้กองกำลังต่างชาติใช้ปฏิบัติการทางทหารที่นี่
"อธิปไตยและบูรณภาพในดินแดนของประเทศจะต้องได้รับการปกป้องไว้อย่างสุดความสามารถ" เขากล่าวอีกว่า "ยังไม่มีข้อตกลงหรือการทำความเข้าใจกับกองกำลังผสมแต่อย่างใด ว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติการในพื้นที่ชายแดนในฝั่งของเรา"
กายานียังกล่าวต่อว่า การสังหารชีวิตพลเรือนในเซาท์วาซิริสถานว่า "ปฏิบัติการที่ขาดการไตร่ตรองอย่างรอบคอบเช่นนี้มีแต่จะช่วยสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายให้แผ่ขยายมากขึ้น"
ทั้งนี้ กายานีได้ประชุมหารือกับมุลเลน และเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม บนเรือบรรทุกเครื่องบิน อับราฮัม ลินคอล์น ของสหรัฐฯ โดยกายานีได้แสดงความเห็นว่า จำเป็นต้องใช้ความอดทนในการต่อสู้กับพวกแนวทางสุดขั้ว และย้ำว่าการใช้ปฏิบัติการทางทหารเพียงอย่างเดียวไม่อาจที่จะแก้ปัญหาได้ และเสนอด้วยว่า สหรัฐฯ "จะต้องเอาชนะใจประชาชนให้ได้"
ส่วนประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซแห่งอัฟกานิสถาน ได้เน้นถึงความจำเป็นที่จะใช้ความพยายามร่วมกันของอัฟกานิสถาน ปากีสถาน และกองกำลังผสมของสหรัฐฯ เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ "เราก็จะต้องเผชิญหน้ากับปัญหายุ่งยากอย่างหนัก เช่นเดียวกับที่เราเผชิญอยู่ในตอนนี้"
ทว่ามุลเลนได้กล่าวเตือนที่วอชิงตันว่า ขณะนี้สหรัฐฯ มีเวลาเหลือน้อยแล้ว และ "ศัตรูมีแต่จะรุกคืบถ้าหากเราไม่สกัดทางหนีในปากีสถานไว้"
ในพิธีรำลึกครบรอบ 7 ปีเหตุการณ์ 11 กันยายนที่คร่าชีวิตผู้คนถึงเกือบ 3,000 คน โฆษกทำเนียบขาวออกมาระบุว่า การล่าตัวอุซามะห์ บินลาดิน จะยังดำเนินต่อไปจนกว่าจะสามารถนำตัวเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้สำเร็จ และว่าขณะนี้บินลาดินนั้น อาจจะเสียชีวิตไปแล้ว หรือกำลังป่วย หรือไม่ก็จะต้องหลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณชายแดนอย่างยากลำบาก