xs
xsm
sm
md
lg

“อัยการ” ยอมรับยึดอาวุธสงคราม ถือเป็นคดีซับซ้อน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผบก.ตม.ยันไม่ได้รับแจ้งตรวจเครื่องบินขนอาวุธมาก่อนเจออาวุธสงคราม 40 ตัน ยอมรับเครื่องบินลำที่ถูกอายัดจับกุมเคยจอดแวะเติมน้ำมันในไทยแล้ว 2 ครั้ง ด้านอัยการระบุคดีลอบขนอาวุธข้ามชาติซับซ้อน ชี้เป็นครั้งแรกของไทยที่จับกุมได้ล็อตมโหฬาร

วันนี้ (15 ธ.ค.) พล.ต.ต.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้บังคับการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (ผบก.ตม.2) เปิดเผยถึงการดำเนินคดีต่อ 5 ผู้ต้องหานักค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ 40 ตัน ว่า จากการตรวจสอบในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ประจำสนามบินดอนเมืองได้รายงานให้ตนทราบว่า ได้ตรวจสอบเครื่องบินเช่าเหมาลำสัญชาติจอร์เจียที่มาขอพักจอดเติมน้ำมัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจเอกสารหนังสือเดินทางของลูกเรือ 4 คน และกัปตัน ซึ่งไม่พบความผิดปกติ จากนั้นได้ขอตรวจสอบใบสำแดงสินค้า พบว่ามีความผิดปกติ จึงเข้าไปตรวจภายในเครื่องบิน ซึ่งพบอาวุธสงครามจำนวนมาก โดยการตรวจสอบนั้นมีเจ้าหน้าที่จากศุลกากร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสนามบินดอนเมืองร่วมตรวจสอบด้วย

ส่วนเครื่องบินลำดังกล่าวนั้น ทางสนามบินดอนเมืองไม่ได้รับการประสานงานมาก่อนว่าเป็นเครื่องบินที่ลักลอบขนอาวุธ หรือมีสิ่งผิดกฎหมายภายใน และยอมรับว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเคยมาแวะจอดเติมน้ำมันแล้ว 2 ครั้ง แต่ขณะนั้นในเครื่องไม่มีอุปกรณ์ เป็นเครื่องบินเปล่าที่คาดว่าอาจบินไปรับสินค้า จึงไม่พบพิรุธในขณะนั้น

ส่วนการประสานข้อมูลจับตาตรวจสอบเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นพิเศษนั้น พล.ต.ต.วิสนุ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการร้องขอหรือให้ตรวจสอบจากหน่วยงานใด ซึ่งอาจเป็นการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ส่วนอื่น แต่ในส่วนของสนามบินที่ตนเองดูแล ไม่ได้รับการประสานมา

อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีต่อ 5 ผู้ต้องหานั้น ขณะนี้ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และการสอบสวนคดีนี้จะมีอัยการเข้าร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวนด้วย

ทางด้าน นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีการเข้าไปร่วมกับพนักงานสอบสวนทำการสอบสวน 5 ผู้ต้องหาขนอาวุธข้ามชาติว่า ในเบื้องต้นต้องดูว่าข้อมูลที่ได้จากผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้นเพียงพอหรือไม่ ซึ่งหากผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือก็ต้องขอความร่วมมือจากประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้

นายศิริศักดิ์ยอมรับว่า รูปคดีมีความซับซ้อน เพราะถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจับกุมอาวุธได้ถึง 35 ตัน ซึ่งแตกต่างจากคดีของวิกเตอร์ บูต นักค้าอาวุธระดับโลก ที่ถูกทางการไทยจับกุมเมื่อปีที่แล้ว เพราะกรณีวิคเตอร์ เป็นการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากความผิดเกิดขึ้นในต่างประเทศ แต่กรณีผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนี้เป็นการทำผิดกฎหมายไทย ซึ่งความผิดในการขนอาวุธเข้ามาในประเทศไทยนั้นจะมีโทษจำคุกสูงสุดประมาณ 10 ปี โดยยังไม่รวมว่าอาจจะมีการเชื่อมโยงกับความผิดอื่นๆ ด้วย

อัยการชี้ชัดแก๊งค้าอาวุธต้องดำเนินคดีตาม กม.ไทย-ทนายยื่นประกัน
ทูตคาซัคสถาน-ล่ามรัสเซียร่วมสอบ 5 นักบินลอบขนอาวุธสงคราม
ยึดอาวุธสงคราม 40 ตันบรรทุกเครื่องบินเกาหลีเหนือ

 5 ผู้ต้องหาคดีลอบขนอาวุธสงคราม
กำลังโหลดความคิดเห็น