ดร.สมจินต์ ศรไพศาล
บลจ.วรรณ
สตีเวน เค สก็อต ผู้แต่ง The Richest Man Who Ever Lived เปรียบพลังที่ขับเคลื่อนชีวิตกับพลังที่ขับเคลื่อนเรือ... เรือบรรทุกเครื่องบินพลังนิวเคลียร์ ยูเอสเอส จอห์น เสตนนิส มีความยาวมากกว่าสนามฟุตบอลสามสนามต่อกัน หนักกว่า 200 ล้านปอนด์ เป็นเสมือนนครลอยน้ำที่มีประชากรกว่า 5000 คนอาศัยอยู่ แต่ยังสามารถท่องทะเลด้วยความเร็วถึง 30 น็อต
ท่านผู้อ่านลองทายดูสิครับว่า เรือลำนี้ต้องเติมเชื้อเพลิงบ่อยเพียงใด
คำตอบคือ 26 ปีครับ เรือมหึมาลำนี้สามารถแล่นอยู่ในท้องทะเลโดยไม่ต้องแวะเติมเชื้อเพลิงเพิ่มเลยในระหว่างนั้น! … นี่คือ พลังอันน่าทึ่งของเตาปฏิกรณ์ปรมาณูอันเป็นแหล่งพลังของเรือลำนี้ มันใช้เชื้อเพลิงเพียงเล็กน้อยแต่ให้ปริมาณพลังงานมหาศาล
เรือชนิดต่างๆ เช่น เรือแจว เรือหางยาว เรือบรรทุกสินค้า เรือบรรทุกเครื่องบิน ใช้แหล่งพลังงานที่ต่างกัน... ประสิทธิภาพของแหล่งพลังงาน(เครื่องยนต์)เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อระดับความสามารถในการรับภารกิจของยานพาหนะนั้นๆ ภารกิจยิ่งใหญ่ย่อมต้องการแหล่งพลังที่ยิ่งทรงประสิทธิภาพ... เรือชีวิตของเราจะทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ได้เพียงใดก็ขึ้นอยู่กับแหล่งพลังของเราเช่นกัน
กษัตริย์โซโลมอน ได้ถ่ายทอดแหล่งพลังอันยิ่งใหญ่แก่เราด้วย ซึ่ง สก็อต ชี้ว่าแหล่งพลังอันยิ่งใหญ่นี้ได้นำพาความสำเร็จอันอัศจรรย์แก่ผู้คนมากมาย รวมทั้งได้เปลี่ยนเด็กที่สอบตกต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ชั้นป.หนึ่งมาเป็นนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งได้ประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียง ภาพยนตร์ และหลอดไฟฟ้าและก่อตั้งบริษัทจีอี (โทมัส เอดิสันจึงเรียนรู้จากโรงเรียนบ้านซึ่งมีแม่เป็นครู ผู้ซึ่งได้ใช้หนังสือสุภาษิตของโซโลมอนเป็นบทเรียนส่วนหนึ่งด้วย) เปลี่ยนเซลแมนขายเครื่องทำมิ้ลค์เชคมาเป็นเจ้าของธุรกิจฟรานไชส์อาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เรย์ คร็อคผู้ก่อตั้งแมคโดนัล) รวมทั้งตัวอย่างของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายอีกมากมาย... แหล่งพลังของโซโลมอนไม่เพียงสร้างกำลังส่งเท่านั้น มันยังเป็นตัวกำหนดทิศทางอีกด้วย
แหล่งพลังของโซโลมอนคือ วิสัยทัศน์ (vision) โดยมีเชื้อเพลิงคือ ความหวัง (hope)
สก็อตนิยามวิสัยทัศน์และความหวังไว้อย่างนี้ครับ
วิสัยทัศน์ คือ เป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง พร้อมด้วยแผนงานและตารางเวลาที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น
ความหวัง คือ ความเชื่อมั่นที่มีรากฐานอันมั่นคงว่าวิสัยทัศน์จะบรรลุผลได้ในเวลาที่กำหนด
เรือที่ไร้จุดหมายปลายทางย่อมวิ่งวนสะเปะสะปะ เรือชีวิตที่ขาดวิสัยทัศน์ก็ขาดเป้าหมาย ขาดความหมาย เป็นชีวิตที่อยู่รอดไปวันๆ
ลองจินตนาการว่าท่านเป็นกัปตันเรือลำหนึ่ง ท่านต้องกำหนดจุดหมายของการเดินเรือที่ชัดเจน จากนั้นท่านก็ต้องเลือกเส้นทางเดินเรือไปสู่จุดหมายนั้น และหากเป็นจุดหมายปลายทางที่ยาวไกล ท่านต้องกำหนดด้วยว่าจะแวะเติมเชื้อเหลิงที่เมืองใดบ้างเป็นระยะๆ
ในเรือชีวิตของเราก็เช่นกัน การกำหนดจุดมุ่งหมายหรือวิสัยทัศน์ของชีวิตเป็นปฐมบทของการเดินทางที่มีความหมาย ซึ่งต้องเริ่มต้นด้วยความใฝ่ฝันของเรา จากนั้นก็คิดต่อไปว่าเพื่อทำฝันนั้นให้เป็นจริง ต้องทำขั้นตอนอะไรบ้าง จากนั้นก็เติมกำหนดเวลาลงไปบนขั้นตอนเหล่านั้น เมื่อเขียนความฝัน ขั้นตอน และกำหนดเวลาเหล่านี้เป็นลายลักษณ์อักษร เราก็จะได้ วิสัยทัศน์ซึ่งจะเป็นแหล่งพลังที่สำคัญของชีวิตของเราต่อไป
วิสัยทัศน์ที่ชัดแจ้งนี้เป็นรากฐานของความหวังอันเป็นเชื้อเพลิงของชีวิต เมื่อมีวิสัยทัศน์และมีความหวัง ท่านก็พร้อมแล้วที่จะออกเดินทาง... ซึ่งสก็อตเตือนไว้ว่าอย่าผัดวันประกันพรุ่งเพราะมันจะทำให้เชื้อเพลิงของท่านหมดลง ท่านต้องเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อไปสู่สถานีเชื้อเพลิงอันถัดไป เพราะคนเรามีความหวังเพิ่มขึ้นเมื่อมีความสำเร็จ การทำขั้นตอนทั้งหลายให้สำเร็จไปทีขั้นจะทำให้เกิดความภาคภูมิใจ ความชื่นชมยินดี ซึ่งเติมเชื้อเพลิงแห่งความหวังให้กับตัวเราและองค์กรของเราเพิ่มขึ้นทำให้เราก้าวต่อไปสู่เป้าหมายของชีวิตอย่างมั่นคงขึ้น กระฉับกระเฉงขึ้น
คราวหน้าเรามาคุยกันเรื่องวิสัยทัศน์ในมิติทั้งสามของชีวิตกันดีไหมครับ
ขอพลังแห่งวิสัยทัศน์อันดีงามและความหวังอันเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นจงสถิตอยู่กับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่านนะครับ
บลจ.วรรณ
สตีเวน เค สก็อต ผู้แต่ง The Richest Man Who Ever Lived เปรียบพลังที่ขับเคลื่อนชีวิตกับพลังที่ขับเคลื่อนเรือ... เรือบรรทุกเครื่องบินพลังนิวเคลียร์ ยูเอสเอส จอห์น เสตนนิส มีความยาวมากกว่าสนามฟุตบอลสามสนามต่อกัน หนักกว่า 200 ล้านปอนด์ เป็นเสมือนนครลอยน้ำที่มีประชากรกว่า 5000 คนอาศัยอยู่ แต่ยังสามารถท่องทะเลด้วยความเร็วถึง 30 น็อต
ท่านผู้อ่านลองทายดูสิครับว่า เรือลำนี้ต้องเติมเชื้อเพลิงบ่อยเพียงใด
คำตอบคือ 26 ปีครับ เรือมหึมาลำนี้สามารถแล่นอยู่ในท้องทะเลโดยไม่ต้องแวะเติมเชื้อเพลิงเพิ่มเลยในระหว่างนั้น! … นี่คือ พลังอันน่าทึ่งของเตาปฏิกรณ์ปรมาณูอันเป็นแหล่งพลังของเรือลำนี้ มันใช้เชื้อเพลิงเพียงเล็กน้อยแต่ให้ปริมาณพลังงานมหาศาล
เรือชนิดต่างๆ เช่น เรือแจว เรือหางยาว เรือบรรทุกสินค้า เรือบรรทุกเครื่องบิน ใช้แหล่งพลังงานที่ต่างกัน... ประสิทธิภาพของแหล่งพลังงาน(เครื่องยนต์)เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อระดับความสามารถในการรับภารกิจของยานพาหนะนั้นๆ ภารกิจยิ่งใหญ่ย่อมต้องการแหล่งพลังที่ยิ่งทรงประสิทธิภาพ... เรือชีวิตของเราจะทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ได้เพียงใดก็ขึ้นอยู่กับแหล่งพลังของเราเช่นกัน
กษัตริย์โซโลมอน ได้ถ่ายทอดแหล่งพลังอันยิ่งใหญ่แก่เราด้วย ซึ่ง สก็อต ชี้ว่าแหล่งพลังอันยิ่งใหญ่นี้ได้นำพาความสำเร็จอันอัศจรรย์แก่ผู้คนมากมาย รวมทั้งได้เปลี่ยนเด็กที่สอบตกต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ชั้นป.หนึ่งมาเป็นนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งได้ประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียง ภาพยนตร์ และหลอดไฟฟ้าและก่อตั้งบริษัทจีอี (โทมัส เอดิสันจึงเรียนรู้จากโรงเรียนบ้านซึ่งมีแม่เป็นครู ผู้ซึ่งได้ใช้หนังสือสุภาษิตของโซโลมอนเป็นบทเรียนส่วนหนึ่งด้วย) เปลี่ยนเซลแมนขายเครื่องทำมิ้ลค์เชคมาเป็นเจ้าของธุรกิจฟรานไชส์อาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เรย์ คร็อคผู้ก่อตั้งแมคโดนัล) รวมทั้งตัวอย่างของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายอีกมากมาย... แหล่งพลังของโซโลมอนไม่เพียงสร้างกำลังส่งเท่านั้น มันยังเป็นตัวกำหนดทิศทางอีกด้วย
แหล่งพลังของโซโลมอนคือ วิสัยทัศน์ (vision) โดยมีเชื้อเพลิงคือ ความหวัง (hope)
สก็อตนิยามวิสัยทัศน์และความหวังไว้อย่างนี้ครับ
วิสัยทัศน์ คือ เป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง พร้อมด้วยแผนงานและตารางเวลาที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น
ความหวัง คือ ความเชื่อมั่นที่มีรากฐานอันมั่นคงว่าวิสัยทัศน์จะบรรลุผลได้ในเวลาที่กำหนด
เรือที่ไร้จุดหมายปลายทางย่อมวิ่งวนสะเปะสะปะ เรือชีวิตที่ขาดวิสัยทัศน์ก็ขาดเป้าหมาย ขาดความหมาย เป็นชีวิตที่อยู่รอดไปวันๆ
ลองจินตนาการว่าท่านเป็นกัปตันเรือลำหนึ่ง ท่านต้องกำหนดจุดหมายของการเดินเรือที่ชัดเจน จากนั้นท่านก็ต้องเลือกเส้นทางเดินเรือไปสู่จุดหมายนั้น และหากเป็นจุดหมายปลายทางที่ยาวไกล ท่านต้องกำหนดด้วยว่าจะแวะเติมเชื้อเหลิงที่เมืองใดบ้างเป็นระยะๆ
ในเรือชีวิตของเราก็เช่นกัน การกำหนดจุดมุ่งหมายหรือวิสัยทัศน์ของชีวิตเป็นปฐมบทของการเดินทางที่มีความหมาย ซึ่งต้องเริ่มต้นด้วยความใฝ่ฝันของเรา จากนั้นก็คิดต่อไปว่าเพื่อทำฝันนั้นให้เป็นจริง ต้องทำขั้นตอนอะไรบ้าง จากนั้นก็เติมกำหนดเวลาลงไปบนขั้นตอนเหล่านั้น เมื่อเขียนความฝัน ขั้นตอน และกำหนดเวลาเหล่านี้เป็นลายลักษณ์อักษร เราก็จะได้ วิสัยทัศน์ซึ่งจะเป็นแหล่งพลังที่สำคัญของชีวิตของเราต่อไป
วิสัยทัศน์ที่ชัดแจ้งนี้เป็นรากฐานของความหวังอันเป็นเชื้อเพลิงของชีวิต เมื่อมีวิสัยทัศน์และมีความหวัง ท่านก็พร้อมแล้วที่จะออกเดินทาง... ซึ่งสก็อตเตือนไว้ว่าอย่าผัดวันประกันพรุ่งเพราะมันจะทำให้เชื้อเพลิงของท่านหมดลง ท่านต้องเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อไปสู่สถานีเชื้อเพลิงอันถัดไป เพราะคนเรามีความหวังเพิ่มขึ้นเมื่อมีความสำเร็จ การทำขั้นตอนทั้งหลายให้สำเร็จไปทีขั้นจะทำให้เกิดความภาคภูมิใจ ความชื่นชมยินดี ซึ่งเติมเชื้อเพลิงแห่งความหวังให้กับตัวเราและองค์กรของเราเพิ่มขึ้นทำให้เราก้าวต่อไปสู่เป้าหมายของชีวิตอย่างมั่นคงขึ้น กระฉับกระเฉงขึ้น
คราวหน้าเรามาคุยกันเรื่องวิสัยทัศน์ในมิติทั้งสามของชีวิตกันดีไหมครับ
ขอพลังแห่งวิสัยทัศน์อันดีงามและความหวังอันเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นจงสถิตอยู่กับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่านนะครับ