เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิ่งมากกว่า 6 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ (22) กลับมาแตะ 114 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือเป็นการร่วงแรงสุดในวันเดียวนับตั้งแต่ปี 2004 หลังจากผู้ค้าหันมาเพ่งเล็งระดับซับพลายที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆและดีมานด์โลกลดต่ำลง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ร่วงลง 6.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นการร่วงลงภายในวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซนต์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2004 ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ในลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 6.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาที่ดิ่งลงวันศุกร์ยังเป็นการร่วงลงเพิ่มเติมของราคาน้ำมันที่รูดลงมาต่อเนื่องมากกว่า 20 เปอร์เซนต์นับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม และอาจเป็นการเพิ่มโอกาสให้ชาติผู้ผลิตน้ำมันโอเปกลดกำลังการผลิต ช่วงที่ทางโอเปกมีคิวประชุมกันในเวียนนาวันที่ 9 กันยายน
ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ร่วงลงวันศุกร์ ได้รับแรงสนับสนุนจากสองรายงาน หนึ่งคือปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของโอเปกและสอง คาดหมายกันว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์วันแรงงานของสหรัฐฯ จะมีการเดินทางลดน้อยลง สืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
Industry consultant Petrologistics คาดหมายว่า การส่งออกน้ำมันของโอเปกจะเพิ่มขึ้น 450,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม เป็น 32.95 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปัจจัยหนึ่งที่สามารถเพิ่มคลังน้ำมันสำรองอย่างแข็งแกร่งให้กับประเทศผู้บริโภค
ขณะเดียวกันกลุ่มรถยนต์และเดินทางสหรัฐฯ (เอเอเอ) กล่าวว่า ในวันแรงงานในปีนี้คาดหมายว่าปริมาณการใช้รถอาจลดลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากผู้บริโภคประสบปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
สัปดาห์นี้ราคาน้ำมันผันผวนเป็นอย่างมาก โดยราคาที่ดิ่งลงในวันศุกร์ มีขึ้นหลังจากราคาน้ำมันพุ่งพรวดช่วงกลางสัปดาห์ สืบเนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
รัสเซียปวารณาว่า จะตอบโต้อย่างสาสมมากกว่าการประท้วงทางการทูตต่อกรณีที่สหรัฐฯ กับโปแลนด์ บรรลุข้อตกลงติดตั้งโล่ป้องกันขีปนาวุธในโปแลนด์ หลังจากก่อนหน้านี้ความตึงเครียดระหว่างมอสโกกับชาติตะวันตกก็คุกรุ่นอยู่ก่อนแล้ว ในเรื่องที่ทหารของรัสเซียลุกรุกเข้าไปในจอร์เจีย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ร่วงลง 6.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นการร่วงลงภายในวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซนต์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2004 ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ในลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 6.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาที่ดิ่งลงวันศุกร์ยังเป็นการร่วงลงเพิ่มเติมของราคาน้ำมันที่รูดลงมาต่อเนื่องมากกว่า 20 เปอร์เซนต์นับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม และอาจเป็นการเพิ่มโอกาสให้ชาติผู้ผลิตน้ำมันโอเปกลดกำลังการผลิต ช่วงที่ทางโอเปกมีคิวประชุมกันในเวียนนาวันที่ 9 กันยายน
ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ร่วงลงวันศุกร์ ได้รับแรงสนับสนุนจากสองรายงาน หนึ่งคือปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของโอเปกและสอง คาดหมายกันว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์วันแรงงานของสหรัฐฯ จะมีการเดินทางลดน้อยลง สืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
Industry consultant Petrologistics คาดหมายว่า การส่งออกน้ำมันของโอเปกจะเพิ่มขึ้น 450,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม เป็น 32.95 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปัจจัยหนึ่งที่สามารถเพิ่มคลังน้ำมันสำรองอย่างแข็งแกร่งให้กับประเทศผู้บริโภค
ขณะเดียวกันกลุ่มรถยนต์และเดินทางสหรัฐฯ (เอเอเอ) กล่าวว่า ในวันแรงงานในปีนี้คาดหมายว่าปริมาณการใช้รถอาจลดลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากผู้บริโภคประสบปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
สัปดาห์นี้ราคาน้ำมันผันผวนเป็นอย่างมาก โดยราคาที่ดิ่งลงในวันศุกร์ มีขึ้นหลังจากราคาน้ำมันพุ่งพรวดช่วงกลางสัปดาห์ สืบเนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
รัสเซียปวารณาว่า จะตอบโต้อย่างสาสมมากกว่าการประท้วงทางการทูตต่อกรณีที่สหรัฐฯ กับโปแลนด์ บรรลุข้อตกลงติดตั้งโล่ป้องกันขีปนาวุธในโปแลนด์ หลังจากก่อนหน้านี้ความตึงเครียดระหว่างมอสโกกับชาติตะวันตกก็คุกรุ่นอยู่ก่อนแล้ว ในเรื่องที่ทหารของรัสเซียลุกรุกเข้าไปในจอร์เจีย
