เอเอฟพี - เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ วิสาหกิจเพื่อการลงทุนของภาครัฐของสิงคโปร์ แถลงว่าในปัจจุบันตนเองมีสินทรัพย์รวม 131,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว แต่ก็เตือนด้วยว่า ยังอาจจะได้รับความเสียหายได้จากกระแสต่อต้าน "กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ" ที่ทำท่าปะทุขึ้นมาในหลายพื้นที่ของโลก
เอส ธนาบาลัน ประธานกรรมการของเทมาเส็ก พูดในตอนหนึ่งระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมในสิงคโปร์ว่า ณ สิ้นเดือนมีนาคมปีนี้ "พอร์ตการลงทุนสุทธิ" ของบริษัทเมื่อคิดตามราคาตลาด มีมูลค่า "ประมาณ 185,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์" หรือเท่ากับราว 131,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ตามเอกสารเผยแพร่ที่นำออกมาแจกจ่ายเมื่อวันศุกร์นี้ (22)
แต่ในการกล่าวสุนทรพจน์คราวนี้ซึ่งมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (21) ธนาบาลันผู้เคยเป็นรองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์ ได้พูดด้วยว่า เทมาเส็กมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหาย เนื่องจากพลอยฟ้าพลอยฝนเจอลูกหลงจากกระแสความรู้สึกเชิงลบต่อต้านบรรดากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (sovereign wealth funds หรือ SWFs) ภายหลังจากพลังอำนาจที่ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ของกองทุนประเภทนี้ ได้ก่อให้เกิดการขัดแย้งโต้เถียงกันอย่างมาก
"ถึงแม้เทมาเส็กได้รับการจับตามองว่ามีคุณภาพสูงระดับเท่ากับเป็นมาตรฐานทองคำ แต่เราก็ยังคงมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายแบบพลอยฟ้าพลอยฝน จากปฏิกิริยาคัดค้านต่อต้าน SWFs" เขากล่าวและพูดต่อไปว่า "เรากำลังมองเห็นความพยายามที่เพิ่มมากขึ้นในทั่วโลก เพื่อนำเอาระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ มาบังคับใช้กับธุรกรรมข้ามพรมแดน"
เขาชี้เจาะจงเป็นพิเศษว่า กำลังมีการ "ใช้คำจำกัดความว่าอะไรคือความมั่นคงแห่งชาติ ที่ขยายครอบคลุมกว้างขึ้น และก็มีการนำเอาระเบียบกฎเกณฑ์อันซับซ้อนยิ่งขึ้นมาประเมินการลงทุนต่างๆ โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคง" โดยสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นทั้งในสหรัฐฯ เยอรมนี,แคนาดา และญี่ปุ่น
เกี่ยวกับการลงทุนของเทมาเส็ก ธนาบาลัน บอกว่า การลงทุนที่อยู่ในแถบเอเชียมีมูลค่าคิดเป็นเกือบ 75% ของการลงทุนของบริษัทโดยรวม ส่วนที่เหลือก็เป็นการลงทุนในพวกประเทศพัฒนาแล้วอย่างเช่นสหรัฐฯ ตลอดจนในบรรดาประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ทั่วโลก
ทั้งนี้ เทมาเส็กได้เคยยืนยันในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า กำลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน เมอร์ริลลินช์ วาณิชธนกิจใหญ่แห่งวอลล์สตรีทที่ประสบปัญหาหนักจากภาวะสินเชื่อตึงตัว ภายหลังภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯเข้าสู่วิกฤตเมื่อกลางปีที่แล้ว
ขณะที่ เดอะ กัฟเวิร์นเมนต์ ออฟ สิงคโปร์ อินเวสต์เมนต์ คอร์เปอเรชั่น (จีไอซี) อันเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติอีกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ ก็ได้ไปลงทุนเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ใน 2 ธนาคารยักษ์ใหญ่ นั่นคือ ยูบีเอส และ ซิตี้กรุ๊ป ซึ่งก็ตกเป็นเหยื่อของวิกฤตคราวนี้เช่นเดียวกัน
กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาตินั้น เป็นเครื่องมือเพื่อการลงทุนที่รัฐบาลชาติต่างๆ ก่อตั้งขึ้น และมีการเติบโตขึ้นมากในระยะหลังๆ มานี้ จนเป็นชนวนทำให้เกิดความวิตกขึ้นมาว่า นโยบายการลงทุนของกองทุนเหล่านี้อาจจะมีการปกปิดมากเกินไป ตลอดจนอาจมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนองวัตถุประสงค์ทางการเมืองและความมั่นคงของประเทศเจ้าของกองทุน มากกว่าผลประโยชน์ทางการลงทุนแท้ๆ
ธนาบาลัน บอกว่า เทมาเส็กกำลังเสี่ยงที่จะถูกกระทบจากปฏิกิริยาต่อต้านเช่นนี้ ถึงแม้การดำเนินงานของบริษัทที่ผ่านมาจะมีความโปร่งใสและไม่ได้ลงทุนเพื่อประโยชน์ทางการเมือง พร้อมกับกล่าวด้วยว่า กระนั้น เทมาเส็กก็ยังคงถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งทางการเมืองโดยบริษัทมิได้มีความปรารถนาเลย
เขายืนยันด้วยว่า เทมาเส็ก "ไม่ได้เป็นและก็ไม่เคยเป็น" กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติตามแบบแผนปกติของประเทศอื่น เพราะเงินของบริษัทไม่ได้มาจากรายได้การขายน้ำมัน หรือการบริหารจัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ
ทั้งนี้ ตามประวัติของบริษัท เทมาเส็กได้รับการจัดตั้งขึ้นในตอนเริ่มแรกเพื่อทำหน้าที่บริหารการลงทุนในหุ้นบริษัทต่างๆ ในสิงคโปร์ที่ทางรัฐบาลแดนลอดช่องมีอยู่ในครอบครอง