เอเอฟพี - สำนักข่าวเอเอฟพีเผยแพร่รายงานที่เขียนโดยแคลร์ ทรูสกอตต์ พูดถึงปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ในประเด็นที่ทหารไทยถูกกล่าวหาว่าทำร้ายประชาชนในพื้นที่
รายงานชิ้นนี้เปิดเรื่องโดยมุคตาร์ เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ซึ่งเล่าว่าขณะที่เขากำลังเดินเพื่อไปชมการแข่งขันฟุตบอลในพื้นที่ได้ถูกทหารไทยกลุ่มหนึ่งยิงที่ศีรษะ จากนั้นก็เตะเขาลงไปในคูน้ำหวังจะให้ตาย
ทว่า อีก 3 สัปดาห์ถัดมา มุคตาร์ได้ฟื้นขึ้นมา เขาอยู่ในโรงพยาบาลและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแบบเจาะคอ กระสุนปืนเจาะกะโหลกศีรษะเขา และถูกตาทั้ง 2 ข้าง
เจ๊ะมา มาร์มิง ผู้เป็นพ่อ บอกว่า ขณะเกิดเหตุพวกทหารเมาเหล้า และกลัวว่าจะถูกโจมตีโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนซึ่งก่อความไม่สงบและทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 3,300 คนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
ใบหน้าที่ผิดรูปไปของมุคตาร์ปิดไว้ด้วยสำลีปิดแผล 2 แห่งด้วยกัน แต่ดวงตาที่ครั้งหนึ่งเคยมองเห็นโลก ยังชุ่มโชกด้วยน้ำตา
ทุกวันนี้เขาใช้เวลาแต่ละวันค่อยๆ เดินสำรวจไปตามพื้นไม้ในบ้านมุงสังกะสี ส่วนของสมองที่ถูกทำลายไปทำให้เขาเสียการทรงตัว อีกทั้งยังปัสสาวะรดที่นอน
"ผมโกรธพวกทหารมากเพราะไม่รู้ว่าทำไมต้องทำกับผมอย่างนี้ด้วย" มุคตาร์บอกกับเอเอฟพี "ผมอยากให้พวกเขาถูกยิงแบบผม แล้วก็เอาตัวขึ้นศาลด้วย"
ทว่ามีน้อยคนนักที่จะได้รับความยุติธรรมจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นรายวันตลอด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในอดีตเมื่อกว่าร้อยปีก่อนเคยเป็นรัฐมุสลิมอิสระ
ครอบครัวของมุคตาร์ได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายเพียง 1 ใน 3 ของจำนวนที่เรียกร้องจากรัฐบาลทั้งหมด 4 ล้านบาท และพวกเขาก็ไม่เคยได้รับคำขอโทษจากฝ่ายทหารตามที่เคยสัญญาไว้แต่อย่างใด
พ่อแม่ของมุคตาร์ต้องลาออกจากงานมาดูแลลูก และไม่มีเงินพอที่จะส่งมุคตาร์เข้าเรียนในโรงเรียนพิเศษสำหรับผู้พิการทางสายตา
พ่อของมุคตาร์นั้นพูดได้แต่ภาษายาวี เขาต้องลงชื่อด้วยภาษาไทยในเอกสารที่เขาอ่านไม่ออก โดยเป็นสัญญาที่ระบุว่าเขาจะไม่ดำเนินการเอาเรื่องกับกองทัพอีกต่อไป
"หากรัฐบาลมีความยุติธรรม เราคงจะได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่านี้" เจ๊ะมาบอก