xs
xsm
sm
md
lg

เฟดลดประมาณการเติบโต ศก.สหรัฐฯ ส่งสัญญาณไม่ลด ด/บ-วิตกเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ทำการเฟดในกรุงวอชิงตันดีซี
เอเจนซี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกรายงานเมื่อวันพุธ (21) ลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจอเมริกาสำหรับปีนี้ลง นอกจากนั้นก็ส่งสัญญาณด้วยว่า กำลังมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จนอาจไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกแล้ว

ในบันทึกรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) เมื่อวันที่ 29-30 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเฟดนำออกมาเปิดเผยในวันพุธ (21) ได้ระบุว่าเอาไว้ว่า “สมาชิกหลายรายให้ข้อสังเกตว่าน่าจะไม่เหมาะสมที่จะผ่อนคลายมาตรการการเงินต่อไป เพื่อเป็นการตอบโต้กับข้อมูลที่ชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลงอีก หรือกระทั่งอาจจะหดตัวลงเล็กน้อยด้วยซ้ำ ในอนาคตอันใกล้นี้”

จากบันทึกรายงานดังกล่าว ชี้ว่า พวกผู้บริหารเฟดหลายคน บอกว่า การที่เอฟโอเอ็มซีมีมติในการประชุมคราววันที่ 29-30 เมษายนนี้ ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เฟดฟันด์เรต (เป้าหมายอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคารชั่วเวลาข้ามคืน) ลงอีก 0.25 เปอร์เซ็นต์ จนเหลือ 2.0 เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นมติที่ “เฉียดฉิว” มาก ถ้อยคำดังกล่าวนี้ยิ่งตอกย้ำความเข้าใจของตลาดที่ว่า บรรดาผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางเหล่านี้ อาจจะไม่ลดดอกเบี้ยลงไปอีกในอนาคต

นักวิเคราะหลายๆ ราย อย่างเช่น คริสโตเฟอร์ โลว์หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล ในนิวยอร์ก ให้ความเห็นว่า “หากคุณเคยมีข้อสงสัยใดๆ ว่า เฟดกำลังสัญญาณที่จะหยุดลดดอกเบี้ยจริงหรือเปล่า ตอนนี้ก็คงเลิกสงสัยได้แล้ว”

พร้อมๆ กับการเปิดเผยบันทึกรายงานการประชุม เมื่อวันพุธเฟดยังได้เผยแพร่รายงานประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจฉบับล่าสุด ซึ่งได้ลดคำทำนายอัตราเติบโตในปี 2008 นี้ ลงอีก 0.3 เปอร์เซ็นต์ ให้มาอยู่ที่ 1.2 เปอร์เซ็นต์ จากระดับ 1.3 เปอร์เซ็นต์ ถึง 2.0 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งประมาณการไว้เมื่อ 2 เดือนก่อน

ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางก็คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะขยายตัว และการว่างงานก็จะเพิ่มขึ้น “อย่างมีนัยสำคัญ” ด้วยเช่นกัน

หลังจากเฟดประกาศคาดการการเติบโตเศรษฐกิจออกมาเช่นนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทก็ร่วงลง ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งปิดลดลงไปเกือบ 1.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราคาพันธบัตรก็ต่ำลง ขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐฯก็อ่อนตัวลงต่อเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเยน

ส่วนตราสารฟิวเจอร์ของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐฯ ยังแสดงให้เห็นแนวโน้มว่านักลงทุนไม่คาดว่าเฟดจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ แต่ชี้ว่าน่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนท้ายๆ ของปี

**การฟื้นตัวที่เชื่องช้า**

บันทึกการประชุม แสดงให้เห็นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อและคาดว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงชั่วขณะ แต่ผู้บริหารเฟดต่างก็มีความเห็นพ้องกันว่าสถานการณ์ย่ำแย่ที่สุดในวิกฤตการเงินครั้งนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

“ดูเหมือนว่าความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในตลาดการเงิน ซึ่งทำให้เฟดตัดสินใจใช้นโยบายเชิงรุกทางการเงินในช่วงต้นปีนี้ จะบรรเทาเบาบางลงไปในแล้วในความรู้สึกของผู้บริหารเฟดส่วนใหญ่” ไมเคิล แฮนสัน นักเศรษฐศาสตร์ของเลห์แมนบราเธอรส์ กล่าว

เฟด กล่าวว่า เนื่องจากเศรษฐกิจเกิดการสะดุดรุนแรงหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อาจต้องใช้เวลาหลายปีก่อนที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราการว่างงานจะกลับมาอยู่ในอัตราเดิม

การลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 30 เมษายนนับเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคารลดลงมาถึง 3.25 เปอร์เซ็นต์ โดยเริ่มจากเดือนกันยายนปีที่แล้วเป็นต้นมา

เศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นเติบโตในอัตราเพียง 0.6 เปอร์เซ็นต์ต่อปีทั้งในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปีที่แล้วและสามเดือนแรกของปีนี้

ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่พุ่งแตะระดับสูงครั้งใหม่รายวันก็ทำให้ราคาอาหารและเชื้อเพลิงขยับขึ้น ฉุดให้ดัชนีราคาผู้บริโภคไปแตะที่ 3.9 เปอร์เซ้นต์ ในช่วง 12 เดือนที่สิ้นสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

บรรดาผู้บริหารธนาคารกลางแสดงความรู้สึกในระหว่างการประชุมเดือนเมษายนว่า ความเสี่ยงที่ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงนั้นยังคงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันความเสี่ยงเงินเฟ้ออาจจะพุ่งขึ้นได้

“บรรดาผู้บริหารเฟดต่างก็...แสดงความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันและโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเครื่องบ่งชี้หลายประการก็ชี้ว่าปัจจัยเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา” บันทึกการประชุม ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น