เอเอฟพี - รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียปฏิเสธข้อกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ และปัดข้อกล่าวหาคอร์รัปชันซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของฝ่านค้าน รายงานข่าวระบุวันนี้ (15)
คำกล่าวชี้แจงของนาจิบ ราซัก ในรัฐสภา มีขึ้น 1 สัปดาห์หลังจากมีบล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียงถูกกล่าวหาปลุกปั่นก่อความไม่สงบ และดึงรองนายกรัฐมนตรีรายนี้และภรรยาของเขาเข้าพัวพันกับบทความเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมแม่หม้ายลูกติดชาวมองโกเลียในปี 2006
“ในฐานะพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ ผมจะพูดอีกครั้งว่าผมไม่เคยรู้ หรือแม้แต่เคยพบผู้หญิงคนนี้มาก่อน ผมภาวนาให้ศาลยังดำเนินการค้นหาความยุติธรรมและส่งเสริมกฎหมายโดยปราศจากการแทรกแซงใดๆ” หนังสือพิมพ์สเตรตส์ไทมส์อ้างคำพูดของเขา
นายอับดุล ราซัก บากินดา หัวหน้าศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์มาเลเซีย ซึ่งเป็นคนสนิทของรองนายกรัฐมนตรีถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งการให้ตำรวจ 2 นาย คือ นายอาซิเลาะห์ ฮาดรี อายุ 30 ปี และนายไซรุล อัซฮาร์ อุมาร์ อายุ 35 ปี ตำรวจสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษอารักขาผู้นำประเทศ ลงมือฆาตกรรมนางอัลตันตูยา ชาอารีอีบู วัย 28 ปี แฟนเก่าของเขาด้วยระเบิด
โดย ณ เวลานี้ศาลมาเลเซียอยู่ระหว่างพิจารณาคดีผู้ต้องหาทั้ง 3 คน
อัยการมีคำให้การรับสารภาพของนายไซรุล เทปภาพจากกล้องวงจรปิดและคำสนทนาทางโทรศัพท์ เป็นหลักฐานสำคัญที่จะพิสูจน์ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนางชาอารีอีบู
เอกสารหลักฐานระบุด้วยว่า นายอับดุล ราซักพบกับนางอัลตันตูยา ในปี 2004 และมีความสัมพันธ์กัน เขามักให้เงินนางไว้ใช้จ่าย แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่เขามาหยุดให้เงินหลังจากพบว่านางจ้างนักสืบเอกชนตามหาที่อยู่ของเขาแล้วทิ้งโน้ตขอเงินและขอนัดพบเอาไว้ ซึ่งครั้งหนึ่งได้ทิ้งข้อความข่มขู่ลูกชายของนายอับดุล ราซัก เอาไว้ด้วยหากเขาไม่ยอมให้เงินนาง
นายนาจิบ ผู้ควบเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหมอีกตำแหน่ง ได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในคดีนี้ หลังจากตอบคำถามของฝ่ายค้านกรณีซื้อเรือดำนำ 2 ลำจากฝรั่งเศส และเครื่องบินรบจากรัสเซีย
“คำใส่ความของสมาชิกรัฐสภาว่ารัฐบาลจ่ายค่านายหน้าสำหรับซื้อเรือดำน้ำและเครื่องบินรบไม่เป็นความจริง และมันเป็นการแสดงที่พยายามสร้างความสับสนให้ประชาชนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง” นาจิบกล่าว