เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งทำสถิติใหม่เฉียดๆ 121 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ (6) ขณะที่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์ระบุว่า อาจจะทะยานขึ้นไปถึงระดับ 200 ดอลลาร์ได้ภายในเวลา 2 ปีข้างหน้า
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก เพื่อการส่งมอบเดือนมิถุนายน ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 120.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตั้งแต่การซื้อขายในตลาดสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (5) แล้ว ก่อนจะถอยลงมาปิดวันนั้ที่ 119.97 ดอลลาร์ ซึ่งสูงขึ้นจากตอนปิดวันศุกร์ 3.65 ดอลลาร์
ต่อมาเมื่อวานนี้ ไลต์สวีตครูดก็ขยับขึ้นอยู่เป็นระยะๆ และขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 120.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงเช้าของการซื้อขายที่ลอนดอน ก่อนจะถอยลงมาอยู่แถวๆ 120.04 ดอลลาร์เมื่อราวๆ เกือบบ่ายโมงของเมืองหลวงอังกฤษ
ทางด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของตลาดลอนดอน เพื่อการส่งมอบเดือนมิถุนายน ก็ได้พุ่งขึ้นไปในวันจันทร์ 3.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แล้วเมื่อวานนี้ ในตอนเช้าของลอนดอนเช่นกัน ได้พุ่งขึ้นทำนิวไฮที่ 119.07 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาอยู่แถวๆ 118.32 ดอลลาร์ตอนเกือบบ่ายโมง
บรรดานักวิเคราะห์พูดถึงปัจจัยที่ทำให้น้ำมันพุ่งแรงคราวนี้ว่า มาจากการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง,เม็ดเงินลงทุนมหาศาลไหลเข้าสู่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์รวมทั้งน้ำมัน ทั้งเพื่อมุ่งประกันความเสี่ยงจากการที่ตลาดอื่นๆ ย่ำแย่ และทั้งเพื่อมุ่งเก็งกำไร,ปัจจัยด้านดีมานด์-ซัพพลาย นั่นคือ ความต้องการใช้น้ำมันยังคงมีสูง โดยเฉพาะจากประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่ซัพพลายน้ำมันยังตึงตัวมาก
ทั้งนี้ ในช่วงนี้ได้เกิดเหตุการณ์ในประเทศผู้ผลิตน้ำมันซึ่งทำให้ตลาดใช้เป็นเหตุผลแสดงว่า ซัพพลายน้ำมันอาจจะยิ่งสะดุดติดขัด ได้แก่ ความไม่สงบที่ไนจีเรีย ซึ่งมีทั้งการนัดหยุดงานและการก่อความไม่สงบรบกวนการผลิตน้ำมันของพวกหัวรุนแรง นอกจากนั้นอิหร่านก็ยังคงแสดงท่าทีท้าทายไม่ยอมรับข้อเสนอให้ยุติโครงการนิวเคลียร์ของพวกมหาอำนาจ
สัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันได้ลดถอยลงมาเกือบ 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งเนื่องจากพวกกองทุนเก็งกำไรได้เทขายออกมาบางส่วน นอกจากนั้นการนัดหยุดงานที่กระทบการผลิตน้ำมันที่ไนจีเรียและเขตทะเลเหนือ ก็ได้ยุติลงด้วย
ทว่าจนกระทั่งถึงเมื่อวานนี้ แม้เอ็กซ์ซอน-โมบิล บอกว่า สามารถผลิตน้ำมันที่ไนจีเรียได้ถึงระดับเป็นปกติแล้วภายหลังการสไตรก์ของแรงงานเป็นเวลา 8 วันยุติลง แต่บริษัทเชลล์กับบอกว่า การผลิตของตนที่ประเทศนั้นยังคงหดหายไปราว 164,000 บาร์เรลต่อวัน สืบเนื่องจากการถูกพวกหัวรุนแรงเข้าโจมตีเมื่อไม่นานมานี้
**โกลด์แมนบอกได้เห็นราคา $200**
ทางด้านโกลด์แมนแซคส์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่วอลล์สตรีท ได้กล่าวในรายงานการวิจัยที่ส่งถึงลูกค้าว่า ราคาน้ำมันสามารถที่จะพุ่งไปถึงระดับ 200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ภายในเวลา 2 ปีข้างหน้า สืบเนื่องจากซัพพลายน้ำมันมีอัตราเติบโตย่ำแย่มาก ทำให้ราคาทะยานขึ้นลิ่ว
"ความเป็นไปได้ที่ราคาจะอยู่ในระดับ 150 ถึง 200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในระยะ 6 ถึง 24 เดือนข้างหน้า ถึงแม้การทำนายว่าราคาน้ำมันจะพุ่งไปจนถึงขีดสูงสุดที่ไหน ตลอดจนช่วงของวัฏจักรขาขึ้นนี้ยังจะยาวนานไปอีกเท่าใดนั้น ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนอยู่มาก" รายงานของโกลด์แมนบอก
โกลด์แมน เป็นหนึ่งในเจ้าแรกๆ ที่ทำนายไว้ตั้งแต่เมื่อกว่า 2 ปีก่อนว่า ราคาน้ำมันจะทะยานขึ้นเป็นหลักร้อยดอลลาร์ โดยระบุว่าตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะตึงตัว และราคาพุ่งแรงแบบ "super-spike"
ทั้งนี้ ทฤษฎี super-spike อธิบายว่า การที่ซัปพลายน้ำมันของโลกมีอัตราเพิ่มน้อยมาก ขณะที่ดีมานด์ความต้องการใช้น้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโออีซีดียังคงทะยานสูงโดยไม่มีการเกี่ยงเรื่องราคาจะเป็นเท่าใด สภาพเช่นนี้จะทำให้ราคาน้ำมันทะยานแรงและต่อเนื่อง จนในท้ายที่สุดก็จะทำให้เกิดการปรับฐานอย่างแรงในเรื่องดีมานด์ความต้องการใช้น้ำมัน
ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน บอกว่า เวลานี้ปัจจัยที่ขับดันให้ราคาพุ่งลิ่วๆ ยังคงอยู่ครบครัน อาทิ ผู้ผลิตนอกโอเปกกำลังเพิ่มซัปพลายได้ในอัตราที่น้อยมากๆ,โอเปกเองก็มีกำลังการผลิตเหลือใช้อยู่ในระดับต่ำ,พวกชาติผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญๆ มีมาตรการจำกัดการลงทุนของต่างประเทศ และเศรษฐกิจของประเทศนอกกลุ่มโออีซีดียังคงมีอัตราความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงมาก
รายงานของโกลด์แมนชิ้นนี้ ซึ่งเขียนโดยอาร์จุน เมอร์ตี นักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ในสหรัฐฯ ระบุว่า ความเป็นไปได้ที่ราคาจะค่อยๆ ขยับขึ้นและอยู่ในระดับสูงๆ กันเป็นช่วงยาวๆ น่าจะมีมากกว่าการพุ่งพรวดอย่างแรงแล้วก็ตกลงมาอย่างรวดเร็วฉับพลัน
โกลด์แมน บอกด้วยว่า ได้ปรับคำทำนายราคาน้ำมันเพื่อการส่งมอบทันทีของน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI ซึ่งก็คือ น้ำมันดิบไลต์สวีตครูด) ในช่วงปี 2008 ไปถึงปี 2011 ให้อยู่ที่ 108 ดอลลาร์ แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 110 ดอลลาร์ แล้วก็ 120 ดอลลาร์ สูงขึ้นจากที่เคยให้ไว้ในคำทำนายครั้งก่อนว่าอยู่ที่ 96 ดอลลาร์ ขยับขึ้นไปเป็น 105 ดอลลาร์ และไปถึง 110 ดอลลาร์ตามลำดับ