เอเจนซี/เอเอฟพี - ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2008 ที่พลิกล็อกไปมาจนยากแก่การทำนาย เคลื่อนเข้าสู่ระยะแห่งการต่อสู้กันในระดับทั่วประเทศตั้งแต่วันพุธ (9) เมื่อบรรดาผู้หวังครองทำเนียบขาวจากทั้ง 2 พรรคใหญ่ ต้องตระเวนหาเสียงแข่งขันกันในหลายๆ มลรัฐ ซึ่งผู้ออกเสียงมีจำนวนมากมายกว่าสนามแรกๆ ที่ผ่านมา
การที่ ฮิลลารี คลินตัน วุฒิสมาชิกมลรัฐนิวยอร์กและอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ เฉือนชนะ บารัค โอบามา วุฒิสมาชิกอิลลินอยส์ ได้ในการเลือกตั้งขั้นต้นที่มลรัฐนิวแฮมป์เชียร์วันอังคาร(8) หลังแพ้ยับเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่มลรัฐไอโอวา ทำให้การชิงชัยระหว่างตัวเก็งทั้ง 2 เพื่อเป็นผู้สมัครของพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเดือนพฤศจิกายนนี้ กลายเป็นสงครามที่หนักหน่วงและน่าจะยืดเยื้อ
โดยสมรภูมิสำคัญต่อจากนี้ไป ได้แก่ มลรัฐเนวาดา และมลรัฐเซาท์แคโรไลนา ก่อนจะถึง "ซูเปอร์ ทิวสเดย์" วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีการจัดเลือกตั้งขั้นต้นพร้อมๆ กันถึง 22 มลรัฐ
เช่นเดียวกับทางฝั่งพรรครีพับลิกัน ชัยชนะที่นิวแฮมป์เชียร์ของ จอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกมลรัฐแอริโซนา ก็ทำให้การแข่งขันระหว่างผู้แข่งขันของพรรคนี้เปิดกว้างมากขึ้น
แมคเคนหวังที่จะมีชัยอีกหนในสนามต่อไป คือ มลรัฐมิชิแกนวันที่ 15 นี้ โดยที่เขาเคยชนะที่นั่นมาแล้วในการรณรงค์หาเสียงเมื่อปี 2000 ทว่า มิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้ว่าการมลรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งได้แค่อันดับ 2 จากทั้งไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์ ก็ต้องพยายามชนะที่มิชิแกนให้ได้เช่นกัน
ขณะที่ ไมก์ ฮักคาบี อดีตผู้ว่าการมลรัฐอาร์คันซอ ซึ่งชนะที่ไอโอวา หันไปสนใจกับสนามถัดไป คือ เซาท์แคโรไลนา มากกว่า แล้วยังมี รูดอล์ฟ จูลิอานี อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ที่เดินยุทธศาสตร์ไม่ให้ความสำคัญกับมลรัฐเล็กๆ แต่ไปปักหลักหาเสียงที่มลรัฐฟลอริดา ซึ่งจะจัดเลือกตั้งขั้นต้นในวันที่ 29 มกราคม
การแข่งขันกันไปในแต่ละมลรัฐ เพื่อช่วงชิงบรรดาผู้แทนที่จะได้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรคในเดือนสิงหาคม-กันยายน อันจะเป็นสถานที่ตัดสินอย่างเป็นทางการว่าใครจะได้เป็นผู้สมัครของพรรคในการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้น มาถึงตอนนี้ก็ต้องเปลี่ยนจากการเมืองแบบพบปะสร้างความสนิทสนมกับผู้ออกเสียงในมลรัฐเล็กๆ อย่างไอโอวา และ นิวแฮมป์เชียร์ กลายเป็นการรณรงค์ในระดับชาติ ซึ่งต้องปูพรมด้วยโฆษณาทางทีวี และการตระเวนเดินทางด้วยเครื่องบิน อันล้วนแต่ต้องใช้จ่ายสูง