เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เข้าตรวจสอบซากช้างป่าเพศเมีย นอนตายอยู่ในร่องน้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำเสาร์ห้า ท้องที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เบื้องต้นไม่พบร่องรอยกระสุนปืน แต่มีรอยฟกช้ำขนาดใหญ่และรอยขูดขีดตามลำตัว สันนิษฐานว่าอาจถูกช้างตัวใหญ่กว่าทำร้ายก่อนลงไปแช่น้ำเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บ และเสียชีวิตในที่สุด
นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 17.00 น. คณะเจ้าหน้าที่เขตบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามช้างป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง , เจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ทหาร, เจ้าหน้าที่ ตชด. และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (wcs) ประเทศไทย เข้าพื้นที่ตรวจสอบกรณีได้รับแจ้งพบเจอซากช้างป่า บริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านเสาร์ พื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นพบเป็นช้างรุ่น อยู่บริเวณขอบอ่างเก็บน้ำซึ่งมีสภาพขึ้นอืด
โดยในวันนี้คณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวได้เข้าตรวจสอบชันสูตรซากช้างดังกล่าว บริเวณบ้านโคนมพัฒนา หมู่ที่ 6 ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน พบว่าเป็นช้างเพศเมีย อายุประมาณ 5 ปี มีน้ำหนักประมาณ 1.7 ตัน นอนตะแคงขวาในร่องน้ำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 5–7 วัน
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายนอกไม่พบรอยบาดแผลจากกระสุน พบเพียงรอยขูดขีดตามผิวหนัง และรอยช้ำขนาดใหญ่บริเวณท้องด้านซ้าย จึงคาดว่ารอยดังกล่าว “เกิดจากการทำร้ายของช้างใหญ่” จึงทำให้ช้างตัวนี้ได้รับบาดเจ็บและลงมานอนแช่น้ำ จนตายลงในที่สุด เนื่องจากสภาพซากเน่าเปื่อย เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเก็บตัวอย่างอวัยวะภายในเพื่อตรวจหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้ จึงดำเนินการขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหนอง เพื่อฝังกลบซากทันที โดยใช้รถแบคโฮขุดหลุม โรยปูนขาวรอบบริเวณ และจัดทำบันทึกส่งรายงานตามขั้นตอน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคในพื้นที่