ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.1447/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท แกนนำกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เป็นจำเลยในความผิดฐาน ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ โดยอัยการโจทก์ฟ้องสรุปความผิดว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 จำเลยได้ปราศรัยระหว่างทำกิจกรรม ทัวร์มูล่าผัว ดูหมิ่นในหลวงรัชกาลที่ 10 และพระราชินี โดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการดูหมิ่นสถาบัน แสดงความอาฆาตมาดร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. แต่จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย ที่นำสืบหักล้างแล้ว เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4, 9 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และพระราชินี จำคุก 3 ปี ฐานใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา
ส่วนคำขอให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 11 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 1423/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ 953/2566 ของศาลอาญา นั้น เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลพิพากษารอการลงโทษ จึงไม่มีโทษจำคุกให้นับโทษต่อ ยกคำขอส่วนนี้
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย ที่นำสืบหักล้างแล้ว เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4, 9 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และพระราชินี จำคุก 3 ปี ฐานใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา
ส่วนคำขอให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 11 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 1423/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ 953/2566 ของศาลอาญา นั้น เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลพิพากษารอการลงโทษ จึงไม่มีโทษจำคุกให้นับโทษต่อ ยกคำขอส่วนนี้