วันนี้ (14 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นายทวี หรือพระบิดา หรือนายโจเซฟ เจ้าสำนักลัทธิประหลาด ใน 8 ข้อหาหนัก ได้แก่ ข้อหาการบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ ข้อหาการรักษาโรค ผิด พ.ร.บ.ความสะอาดของสาธารณสุข ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ปลูกผลิตกัญชา มีซากสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครอง เจาะบ่อบาดาลและใช้น้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาต ดำเนินคดีในฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 11,73 (มีไม้พะยูง 40 ท่อนอยู่ในสำนัก) และฐานมีไม้ท่อนหวงห้าม (มีไม้เต็งรังจำนวน 11 ท่อน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 69
นอกจากนี้ ยังพบว่า นายทวี หรือพระบิดา ได้บุกรุกที่ป่าไม้สาธารณะเป็นพื้นที่ 26 ไร่เศษ กระทำผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ยังต้องดูแล ดังนั้นการเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ถือว่าเป็นการบุกรุกอย่างผิดกฎหมาย จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54, 55 อีกกระทงด้วย
ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความดำเนินการตามกฎหมายกับ นายทวี เพิ่มเติมต่อ พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย สว. (สอบสวน) สภ.คอนสาร พร้อมทั้งได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ จัดกำลังในพื้นที่จัดเวรยาม เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่และบริเวณโดยรอบหมู่บ้านแล้ว เพื่อป้องกันการจะมีการแอบเข้ามาขโมยทรัพย์สินและทำลายหลักฐาน ก่อนที่จะมีการติดประกาศขนาดใหญ่อีกจำนวน 3 ป้าย บริเวณปากทางเข้าสำนักลัทธิดังกล่าว ระบุ ว่า
1.พื้นที่กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ
2.ป้ายกำหนดพื้นที่หวงห้ามเข้า-ออก
3.ป้ายขอให้ออกจากพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งหลังจากนี้ก็มีเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกพร้อมปิดกันทางเข้า-ออกอย่างถาวรจนกว่าจะมีการส่งดำเนินคดีเจ้าฤาษีลัทธิประหลาดพร้อมพวกทั้งหมดตามกฎหมายให้เสร็จสิ้นทั้งหมดต่อไป
