xs
xsm
sm
md
lg

“พระบิดา” สำนักเพี้ยนรอดนอนคุก! เจอ 4 ข้อหาหนัก สสจ.ชัยภูมิเตือนกินอึ ฉี่ ขี้ไคล เสี่ยงติดเชื้อถึงตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชัยภูมิ - ศาลให้ประกันตัว “พระบิดา” เจ้าสำนักเพี้ยนรอดนอนคุก ตำรวจแจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหาหนัก ด้าน สสจ.ชัยภูมิเตือน กินอึ ฉี่ ขี้ไคล เสมหะเจ้าลัทธิอันตรายเสี่ยงติดเชื้อถึงตาย ขณะ จนท.ตรวจค้นหาร่าง 11 ศพ พบสยองเน่าเหม็นคาโลง เร่งตรวจสอบบุคคลและสาเหตุการตาย ไม่พบเอกสารยืนยัน 5 ร่าง

วันนี้ (9 พ.ค.) ความคืบหน้ากรณี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ “หมอปลา” นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจบุกเข้าตรวจสอบสำนัก (ฤาษี) ปฏิบัติธรรมประหลาด ตั้งอยู่ในป่าที่สาธารณะหมู่บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เปิดรับรักษาโรคทุกชนิด โดยการให้ดื่มปัสสาวะ กินอุจจาระ กินเสมหะและขี้ไคลของเจ้าสำนักฯ รวมถึงยาที่ดองไว้นับ 100 โอ่ง เป็นยารักษาโรคต่างๆ ให้กับคนไข้ที่เดินทางจากทั่วสารทิศเข้ามาทำการรักษาอยู่ในสำนักดังกล่าว จากการเข้าตรวจสอบภายในสำนัก พบร่างผู้เสียชีวิตถึง 11 ราย บรรจุอยู่ในโลงศพ อ้างรอการขึ้นสวรรค์ ก่อนคุมตัว นายทวี หนันลา หรือ “โจเซฟ” หรือลูกศิษย์เรียกว่า “พระบิดา” อายุ 74 ปี เจ้าสำนักปฏิบัติธรรม อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 1 ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น อ้างเป็นเจ้าลัทธิพระบิดาทุกศาสนา ไปสอบสวนดำเนินคดีนั้น


ล่าสุดวันนี้ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา นำทีมสื่อมวลชนหลายสำนัก และ พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.คอนสาร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคอนสาร อาสาสมัครหน่วยกู้ภัย และ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชัยภูมิ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบสำนัก (ฤาษี) ปฏิบัติธรรม ที่ตั้งอยู่กลางป่าในพื้นที่หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นกระท่อมไม้ชั้นเดียวมุงด้วยใบหญ้าคาก่อสร้างอยู่หลายหลัง และภายในกระท่อมมีข้าวของวางรวมกองสูงไว้เกลื่อนเป็นจำนวนมาก


วันนี้ชุดสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียดตามกระท่อมต่างๆ ภายในสำนักดังกล่าว ที่ลูกศิษย์ของฤาษีเจ้าสำนักแห่งนี้ระบุว่ามีการเก็บศพไว้ภายในสำนักดังกล่าวด้วยรวม 11 ศพ และมีโลงศพภายในมีร่างผู้เสียชีวิต อยู่ตามจุดกระท่อมต่างๆ เพื่อเคลื่อนอายัดและย้ายศพไปส่งตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลและชันสูตรศพอย่างละเอียด

เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเข้าตรวจสอบสถานะพื้นที่ป่าที่ตั้งสำนักฯ และฝ่ายตรวจชันสูตรร่างทั้ง 11 ร่างเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และอายัดศพไปชันสูตร ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณเพิงพักหลังใหญ่ และมีโลงศพอยู่ภายใน 5 โลง พบด้านในเพิงพักหลังใหญ่มีสิ่งของวางระเกะระกะจำนวนมาก ภายในเพิงพักยังมีโอ่งน้ำอยู่บริเวณใกล้กันกับมุ้ง-ที่นอนของผู้ที่มาปฏิบัติธรรมอยู่หลายใบ ซึ่งภายในมีฝุ่นกระจายคล้ายกับไม่มีคนอยู่ อีกทั้งยังเป็นที่หลับนอนของผู้มาปฏิบัติธรรม และผู้ที่อ้างตัวเป็นพระบิดาด้วย ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นนั้น ไม่มีผู้อาศัยอยู่ภายในเพิงพักหลังใหญ่ มีเพียงผู้อาศัยอยู่บริเวณกระท่อมด้านนอก


หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบริเวณดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำศพที่อยู่ภายในโลง ในเพิงพักหลังใหญ่ออกมาวางเรียงไว้ด้านนอก ก่อนเข้าตรวจสอบตามกระท่อมที่อยู่ด้านนอกพบมีโลงศพอีกจำนวน 6 โลง ที่อยู่ภายในกระท่อมและด้านนอกกระท่อมที่ถูกจัดวางไว้ ซึ่งมีจำนวน 2 โลงที่อยู่ด้านนอกต่อสายยางออกจากโลงศพเพื่อนำน้ำเหลืองออกมาใส่ถังที่จัดเตรียมไว้ ส่วนบางศพก็อยู่ภายในกระท่อมเล็กๆ ในป่า บางศพซึ่งคาดว่าเป็นผู้ที่มาอยู่ก่อนถูกนำศพไว้ในที่บรรจุศพ ซึ่งใช้ปูนซีเมนต์ก่อปิดล้อมเป็นที่เก็บศพ เจ้าหน้าที่เปิดเข้าไปดูพบเพียงกระดูก


ส่วนบางศพที่อยู่ในบ้าน ซึ่งอยู่ห่างออกมาซึ่งคาดว่าเป็นศพใหม่ที่เพิ่งเสียชีวิตไม่นาน เจ้าหน้าที่จึงนำออกมาตรวจสอบพบเป็นศพของผู้หญิง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณดังกล่าว ถูกห่อหุ้มด้วยถุงซิปที่บรรจุ ก่อนนำใส่โลงและนำไปเก็บไว้ในกระท่อมที่พักซึ่งคาดว่าเป็นของผู้ที่มาปฏิบัติธรรม หรือผู้ที่มาอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำมาเรียงไว้บริเวณหน้าเพิงพักหลังใหญ่ ก่อนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพทั้ง 11 ร่างไปเก็บรักษาที่สุสานมูลนิธิเต๊กก่า ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพื่อทำการตรวจพิสูจน์และทำการตรวจหาดีเอ็นเอ พร้อมทั้งหากมีญาติ หรือมีผู้นำเอกสารระบุว่าเป็นญาติ มาขอรับศพจะได้มอบให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา


ขณะที่ นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 1 ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม หรืออาศรม ดังกล่าว ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.คอนสารได้แจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหา ได้แก่ 1. ข้อหาการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ 2. การรักษาโรค ผิด พ.ร.บ.เวชกรรม ที่ไม่เป็นไปตามหลักสาธารณสุข 3. การเคลื่อนย้ายศพจัดการศพ และ 4. ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ก่อนคุมตัวส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดภูเขียว พร้อมคัดค้านการประกันตัว อย่างไรก็ตาม ศาลได้พิจารณาให้ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว จากนั้นพระบิดา หรือนายทวี ได้เดินทางกลับบ้านที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น


ทางด้าน นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชัยภูมิ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิที่ร่วมตรวจสอบชันสูตรศพยังไม่พบว่ามีเอกสารระบุว่าผู้เสียชีวิตในโลงเป็นใครมาจากไหน จำนวน 5 ศพ ซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์ยืนยันหาว่าเป็นใครมาจากไหนให้ชัดเจนอีกครั้ง

ส่วนการนำสารคัดหลั่งจากซากศพ หรือของคนยังมีชีวิตอยู่ ทั้งน้ำปัสสาวะ เหงื่อ ขี้ไคล เสมหะ มาดื่มกิน เพื่อรักษาโรคนั้น สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมาซึ่งอาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนมาด้วย และเสี่ยงต่อพี่น้องประชาชน ที่เชื่อว่าจะช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้นั้น ต้องระวังให้มากที่สุด โดยเฉพาะโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ผู้ที่ไปรวมกลุ่มแบบนี้โดยไม่ได้ป้องกันตัวเอง ไม่สวมหน้ากากอนามัย และอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดนั้นยิ่งไม่ปลอดภัยและเสี่ยงต่อการทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรคได้


ในกรณีการรักษาแบบผิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นนี้ ต้องขอเตือนพ่อแม่พี่น้องประชาชน ตอนนี้เรามีสวัสดิการรักษาพยาบาลมากมายที่รัฐบาลช่วยดูแลพี่น้องอยู่ อย่าได้ตกเป็นเหยื่ออย่าหลงเชื่อบุคคลแอบอ้างเรื่องของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ในการสร้างความศรัทธาและทำให้หลงเชื่อความรู้ที่ผิดๆ ในลัทธิต่างๆ ได้อีก

นพ.วชิระกล่าวต่อว่า ในวันนี้ (9 พ.ค.) ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิได้ลงพื้นที่ประสานการดำเนินการในเรื่องของการตรวจชันสูตรซากศพแล้ว รวมทั้งจะสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมในเรื่องอื่นๆ รวมทั้งให้ทุกอำเภอใน จ.ชัยภูมิ ได้สำรวจว่ามีการกระทำในลักษณะเช่นนี้อีกหรือไม่ ที่จะเป็นจุดเสี่ยงแหล่งเกิดโรคระบาดรุนแรงตามมา และจะได้ดำเนินการในส่วนของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคคุ้มครองสวัสดิภาพความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนไม่ปลอดภัยในกรณีนี้ต่อสำนักฤาษีดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย

“ขอฝากย้ำเตือนในกรณีการนำของเสียจากร่างกายมาใช้รักษาโรคนั้น ไม่ควรนำเข้าสู่ร่างกาย เพราะอันตรายรุนแรงถึงขั้นทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตได้ ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ 11 ศพ ที่พบในการเข้าตรวจค้นในสำนักฤาษีดังกล่าวในครั้งนี้ด้วย” นพ.วชิระกล่าว


ทางด้าน พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร กล่าวว่า จากการตรวจสอบ นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 79 หมู่ 1 ต.หนองเรือ อ.หนอเรือ จ.ขอนแก่น เจ้าของสำนักฤาษีปฏิบัติธรรมประหลาด ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ป่าสาธารณะ บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ มาตั้งแต่ช่วงเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา และเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง มีผู้เคารพเชื่อถือศรัทธาจำนวนมาก เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ด้วยการอ้างตัวมีคุณวิเศษรักษาโรคต่างๆ ได้มาจนปัจจุบัน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในครั้งนี้ ซึ่งในส่วนที่พบกระทำผิดในกฎหมายข้อใด จะได้เร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทั้งหมดแน่นอน

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งปิดสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว พร้อมปิดกั้นบริเวณห้ามประชาชนผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เด็ดขาด


วันเดียวกันนี้ ประชาชนชาวอำเภอคอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้รวมตัวหน้าที่ว่าการอำเภอคอนสาร ชูป้ายต่อต้านลัทธิความเชื่อประหลาดดังกล่าว พร้อมตะโกนขับไล่ออกจากพื้นที่ และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ก่อนมอบหนังสือข้อเรียกร้องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นตัวแทนรับมอบ












กำลังโหลดความคิดเห็น