ชัยภูมิ - “ พระบิดา” เจ้าสำนักเพี้ยน กินอึ ฉี่ ขี้ไคล รักษาโรค หายตัวล่องหนหลังศาลให้ประกันตัว ด้านรองผู้ว่าฯ ชัยภูมินำทีม จนท.พร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นสำนักเพี้ยนอีกรอบ พบหลักฐานเพียบ ผงะโอ่งถังหมักผลิตปลาร้าเน่าเหม็น รวมทั้งผลิตสินค้าขนมส่งขาย และแปรรูปไม้หวงห้าม จ่อดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกหลายข้อหาและเร่งรื้อถอนปิดสำนักฯถาวรให้แล้วเสร็จใน 7-10 วัน
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ “หมอปลา” นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข บุกเข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมประหลาด ตั้งอยู่ในป่าที่สาธารณะหมู่บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เปิดรับรักษาโรคโดยการให้ดื่มน้ำปัสสาวะ กินอุจจาระ เสมหะ และขี้ไคล ของเจ้าสำนักฯ รวมถึงยาสมุนไพรที่ดองไว้นับ 100 โอ่ง เป็นยารักษาโรคต่างๆ ให้ผู้ที่เข้ามารักษาอยู่ในสำนักดังกล่าว และพบร่างผู้เสียชีวิต 11 ศพบรรจุอยู่ในโลงศพ อ้างรอการขึ้นสวรรค์ ก่อนควบคุมตัว นายทวี หนันลา หรือ “โจเซฟ” หรือลูกศิษย์เรียกว่า “พระบิดา” อายุ 74 ปี เจ้าสำนัก อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 1 ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น อ้างเป็นเจ้าลัทธิพระบิดาทุกศาสนา ไปสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.คอนสาร เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหา บุกรุกที่สาธารณะ และฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคโควิด-19 พนักงานสอบสวน สภ.คอนสารนำตัวส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดภูมิเขียว และศาลพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวเมื่อค่ำวันที่ 9 พ.ค.แล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มอบหมายให้ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อม นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชัยภูมิ และ พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ นำหมายศาลจังหวัดภูเขียว เข้าตรวจค้นตรวจสอบภายในสำนักปฏิบัติธรรมลัทธิประหลาดโดยละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง
ส่วน นายทวี หนันลา หรือ “พระบิดา” เจ้าสำนักเพี้ยน ที่ศาลได้อนุมัติให้ประกันตัวเมื่อค่ำวันที่ 9 พ.ค.จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏตัว แม้แต่ทางญาติที่จังหวัดขอนแก่นก็ยังไม่ทราบว่าไปอาศัยอยู่ที่ใด ทำให้กลุ่มลูกศิษย์สาวกลัทธิเพี้ยนดังกล่าวที่ยังมีข้าวของอยู่ในพื้นที่สำนักฯ ต่างพากันแห่ไปรีบเก็บสิ่งของมีค่าตัวเองออกจากสำนักฯ เป็นจำนวนมากในวันนี้ ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าเมื่อฤาษีพระบิดาไม่อยู่และไม่กลับมาที่สำนักฯ แล้ว ลูกศิษย์ก็ไม่รู้จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเป็นประชาชนนอกพื้นที่มาจาก จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เร่งเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในสำนักดังกล่าวทั้งหมดเพราะเกรงว่าจะมีลูกศิษย์จำนวนมากมาเคลื่อนย้ายสิ่งของที่ต้องยึดไว้ตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายออกไป โดยเข้าไปตรวจค้นบริเวณจุดที่เป็นที่พัก ซึ่งอยู่ในกระท่อมยกสูงหลังใหญ่ บริเวณด้านหน้าสำนักก่อน โดยตรวจสอบโอ่งน้ำหมักซากเน่า และกระติกน้ำที่อ้างว่าเป็นน้ำมนต์ ใช้ในการถูตัวพระบิดา พบว่าน้ำมีกลิ่นเน่าเหม็น จึงได้นำไปตรวจสอบ
ก่อนไปตรวจบริเวณจุดที่ทำสินค้าปลากรอบ ขนมต่างๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะทำขนมเอาไว้ขายให้ชาวบ้านที่เข้ามารักษาอาการป่วย ที่มีประชาชนจำนวนมาก ทั้งมาจากเขต อ.คอนสาร และ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บนำไปตรวจสอบว่ามีขบวนการผลิตที่สะอาด และมี อย.รับรองการผลิตหรือจัดจำหน่ายหรือไม่
ส่วนบริเวณปากทางเข้าห้องที่เก็บสินค้ายังมีกลิ่นเหม็นคล้ายปัสสาวะของคนคลุ้งไปทั่วบริเวณ และปากทางเข้าห้องเก็บของยังพบที่กักเก็บซึ่งคาดว่าเป็นที่หมักน้ำปลาร้าส่งขาย อยู่ในถังอีกจำนวนหลายใบ เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบเพิ่มเติม รวมทั้งยังพบมีการแปรรูปไม้หวงห้ามในพื้นที่สำนักดังกล่าวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบที่มาที่ไปทั้งหมดต่อไป
หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่และเก็บข้อมูลไปตรวจสอบในเบื้องต้นแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะได้ผลักดันบรรดาสาวกที่มาอาศัยบริเวณสำนักดังกล่าวให้ออกจากพื้นที่ทั้งหมด เพื่อตรวจยึดพื้นที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นป่าสาธารณประโยชน์คืนให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่นได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ หัวหน้าทีมนำตรวจค้นในครั้งนี้ กล่าวว่า นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเร่งเข้าทำการรื้อถอนสำนักลัทธิประหลาดดังกล่าวให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายใน 7-10 วัน เพื่อไม่ให้กลุ่มนี้กลับเข้ามาอีก พร้อมกันนี้ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุกอำเภอเร่งตรวจสอบลัทธิในลักษณะดังกล่าวภายในจังหวัดว่ามีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หากมีขอให้เร่งทำการตรวจสอบและดำเนินคดีต่อส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทำการรื้อถอนเพื่อไม่ให้เกิดเป็นลัทธิงมงายแบบนี้ได้อีกในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ