นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 54 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพบในห้องแยกกักโรค 53 ราย และในเรือนจำสีแดง 1 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 701 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 90.8% กลุ่มสีเหลือง 8.3% และกลุ่มสีแดง 0.9% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 90,134 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 93,476 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 201 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่ม ส่งผลให้สถานะเรือนจำคงที่ กล่าวคือ มีจำนวนเรือนจำสีขาว 134 แห่ง และเรือนจำสีแดง 8 แห่ง โดยแบ่งเป็นเรือนจำระบาดใหม่ 5 แห่ง เรือนจำที่ระบาดซ้ำในแดนเพียงบางส่วน 2 แห่ง และมีเรือนจำ 1 แห่งที่ลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) ซึ่งจะพ้นจากการระบาดได้ในระยะต่อไป
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 243,091 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,081 ราย
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข