รตอ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊ก เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง - earth pongsakorn kwanmuang ระบุว่า“ต้อง “จับ” “ปรับ” ถึง เปลี่ยน” พฤติกรรมคนได้ (วินัยจราจร)
ความสูญเสียเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้และไม่ควรเกิดขึ้นกับชีวิตของคนที่เดินข้ามทางม้าลาย กทม. จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
การแก้ไขทางม้าลายให้สะดวก ปลอดภัย จะต้องแก้ด้วย 2 วิธีหลักๆ คือ
1.การแก้ไขทางกายภาพ ด้วยการออกแบบเชิงโครงสร้างเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม และ
2.การแก้ไขพฤติกรรมวินัยจราจร ด้วยการบังคับใช้กฎหมายที่ต้องทำไปพร้อมๆ กัน
ทางม้าลายที่ดี ต้องมีความชัดเจน มีสัญญาณไฟ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่ในหลายๆ ที่ในประเทศไทยที่ทางม้าลายสภาพดีแล้ว ก็ยังมีปัญหา ยังมีคนใช้รถที่ฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก เกิดอุบัติเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะขาด “วินัยจราจร”
อย่างเช่น แยกอโศกมนตรี แยกขนาดใหญ่ที่ กทม. ได้ปรับปรุงทางกายภาพแล้ว ทั้งขยายทางม้าลายให้กว้างขึ้น ทาสีแดง-ขาว ระบุข้อความ “พื้นที่จับปรับ” ไม่ให้รถจอดคร่อมทางม้าลาย และทำเนินหลังเต่าตรงทางม้าลายที่เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด รวมทั้งติดตั้งไฟส่องสว่างและไฟจราจรข้ามถนนแบบมีปุ่มกด เพื่อให้คนเดินข้ามทางม้าลาย ผู้ใช้รถใช้ถนนปลอดภัยไปด้วยกัน
แต่ภายหลังจากที่ดำเนินการแล้ว ก็ยังมีผู้ฝ่าไฟแดง จอดคร่อมทางม้าลาย ยังทำผิดในลักษณะเดิม เพียงเดือนมกราคมเดือนเดียว พบการกระทำผิดกว่า 25,000 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตามกฎหมาย เตรียมรอรับใบสั่งที่บ้านได้เลย
เพราะในแยกอโศกเราได้นำกล้อง ai มาใช้ จากเดิมตำรวจตั้งด่านจับปรับมุมหนึ่ง อีกฝั่งหนึ่งก็ทำการฝ่าฝืน และด้วยความที่เป็นแยกขนาดใหญ่ และมีแยกลักษณะนี้อีกหลายแยก จำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอที่จะจับปรับทุกคนที่ทำความผิดได้ แต่การใช้กล้องระบบ ai เก็บข้อมูลจะช่วยทำให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ออกใบสั่งได้ครอบคลุมผู้กระทำผิดได้ทุกคน
การเปลี่ยน “วินัยจราจร” ที่แยกอโศกแยกเดียว คงไม่เพียงพอ แต่ถ้ามีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เช่นเดียวกันกับแยกนี้ในทุก ๆ แยก ทุก ๆ ทางม้าลาย ผู้ที่ชอบฝ่าฝืนก็จะโดน “ปรับ” ทุกๆ ครั้ง และปรับพฤติกรรมตนเอง
ขอขอบคุณ สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ที่ร่วมกันริเริ่มโครงการแยกอโศก และ กทม.จะทำทุกวิถีทางเพื่อเร่งผลักดันให้ทุกแยก ทุกทางม้าลาย และทุกสถานีตำรวจในพื้นที่กรุงเทพฯ “จับ ปรับ” อย่างจริงจัง เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายด้วยการใช้เทคโนโลยีครับ”