นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ห่วงใยประชาชนในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ ที่จะซื้อของฝากของขวัญให้แก่กันและกัน จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า การจำหน่ายกระเช้าของขวัญ ชุดของขวัญปีใหม่อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสปรับราคาเอาเปรียบผู้บริโภค และให้ประสานห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง ซูเปอร์มาร์เกต ร้านจำหน่ายสินค้าให้มีการปิดป้ายแสดงราคาและรายการสินค้าอย่างชัดเจนให้ผู้บริโภคได้รับทราบด้วย โดยกำชับไม่ให้นำสินค้าที่ใกล้หมดอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเสื่อมคุณภาพ มาจัดลงในกระเช้าหรือชุดของขวัญ และให้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรับประกันหรือคืนสินค้ากรณีชำรุด และห้ามมิให้ฉวยโอกาสปรับราคาจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น โดยไม่มีเหตุผลอันควร
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังขอให้เตรียมความพร้อมดูแลสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ประชาชนจะมีการเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยว โดยให้ตรวจสอบต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนปีใหม่ และช่วงหลังปีใหม่ ที่คนจะเดินทางกลับ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน โดยให้เน้นร้านค้าในสถานที่ที่มีคนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก เช่น สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สนามบิน และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งให้ตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง โดยตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายว่ามีปริมาณเต็มลิตรหรือไม่ ขณะเดียวกัน ให้รณรงค์ให้ร้านค้าปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ทั้งราคาสินค้า ค่าบริการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ