โฆษกรัฐบาล เผย ก.อุตสาหกรรม มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 4 กล่อง ส่งต่อความห่วงใยจากนายกฯ เตรียมจัดมหกรรมสินค้าราคาโรงงาน ลดภาระปชช. เน้นอำนวยความสะดวก/ลดต้นทุน เสริมสภาพคล่อง ยกระดับผู้ประกอบการ พร้อมดูแลเกษตรกรและปชช.
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามข้อสั่งการที่ให้ทุกกระทรวงจัดของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับประชาชน โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เตรียมมอบของขวัญปีใหม่โดยการอำนวยความสะดวก/ลดต้นทุนผู้ประกอบการ เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ ยกระดับผู้ประกอบการ และดูแลเกษตรกรและประชาชน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. อำนวยความสะดวก/ลดต้นทุนผู้ประกอบการ - ได้แก่ บริการงานอนุญาตของ สมอ. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 100% และยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตผลิตภัณฑ์อุสาหกรรม/การจดทะเบียนเครื่องจักร/รายปีแก่ผู้ประกอบกิจการโรงงาน
2. เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ - โดยให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 32,030 ล้านบาท จากสำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กสอ. และ ธพว. ได้แก่ 1. สินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี สำหรับ SME ผู้ผลิตให้บริการค้าปลีกค้าส่งในกลุ่มอุตสาหกรรม BCG (Bio Circular Green) 2. สินเชื่อ สร้างโอกาส เสริมสภาพคล่อง SME ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี สำหรับ SME ผู้ผลิตให้บริการค้าปลีกหรือค้าส่ง 3. สินเชื่อเพื่อฟื้นฟู SME ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี เพื่อเป็นเงินทุนช่วยเหลือให้กับ SME กลุ่มเดิมที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ที่มีภาระหนี้เงินต้นวงเงินกู้สินเชื่อระยะยาว (Term Loan) 4. สินเชื่อพิเศษดีพร้อมเปย์ (DIProm Pay) อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันได เริ่มต้นปีแรก 3% ปีที่สอง 4% และ ปีที่สาม 5% สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และ 5. สินเชื่อ SMEs Happy สำหรับลูกค้าเดิมของ ธพว. และผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป เพื่อขยายกิจการ เสริมสภาพ รักษาการจ้างงาน และฟื้นฟูกิจการหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
3. ยกระดับผู้ประกอบการ ได้แก่ การกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ Covid-19 เพื่อเป็นเกณฑ์สำหรับการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ คุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน /ฟรีต้นแบบผลิตภัณฑ์จากกัญชงกว่า 28 ผลิตภัณฑ์ เพื่อนำผลิตภัณฑ์ต้นแบบมาต่อยอดเชิงธุรกิจต่อไปได้ /ให้คำปรึกษาแนะนำและออกแบบรรจุภัณฑ์ ฉลาก สติกเกอร์ พร้อมทั้งจัดทำต้นแบบให้ผู้ประกอบการฟรี/ มอบต้นแบบเครื่องมือแพทย์ด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ สู่การใช้งานจริงในกลุ่มสถานพยาบาลระดับต่างๆ ทั้งสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน/พัฒนาเครื่องทุ่นแรงสำหรับธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม 179 เครื่อง 50 โรงงาน /คลินิกให้คำปรึกษาแนะนำด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่วิสาหกิจชุมชน/แจกซอฟต์แวร์สำหรับเอสเอ็มอีไทย จำนวน 34 โปรแกรม ให้ใช้ฟรี 6 เดือน เป็นโปรแกรมด้านบัญชี การเงิน ด้านการตลาดออนไลน์ ด้านการบริหารจัดการ ด้านการบริหารบุคคล ด้านการสื่อสาร และด้านบริการลูกค้าสัมพันธ์
4. ดูแลเกษตรกรและประชาชน ได้แก่ โครงการเหมืองแร่ปลอดภัยห่วงใยประชาชนปีที่ 5 โดยจัดกิจกรรมดูแลสุขภาพของประชาชนโดยรอบสถานประกอบการ/ ติดตั้ง QR Code หน้าโรงงาน เปิดเผยข้อมูลพื้นฐานของโรงงานอุตสาหกรรม/การแสดงคิวอาร์โค้ด (QR Code) คู่กับเครื่องหมายมาตรฐานที่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตตามมาตรฐานเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและร้องเรียนได้/จัดหาเครื่องสางใบอ้อย จำนวน 288 เครื่องให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ยืมใช้ เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในการตัดอ้อยสด รวมถึงช่วยลดมลพิษด้านฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังเตรียมจัดงานจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาโรงงาน ช่วยลดค่าครองชีพช่วยเหลือประชาชน อาทิ สินค้าจากศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ผู้ประกอบการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย สินค้า SMEs และโอทอป สินค้าชุมชนจากโครงการ Farm to Factory กำหนดจัดระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2564 ณ บริเวณนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี และมหกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้า DIPROM MOTOR OUTLET จำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องจักรกลการเกษตรในราคาพิเศษ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาระให้ผู้บริโภค โดยจะจัด ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จังหวัดลำปาง
“มาตรการของขวัญปีใหม่ เป็นของขวัญที่กระทรวงอุตสาหกรรม มอบให้ประชาชนตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้คนไทยกลับมามีรอยยิ้มและมีความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่ การอำนวยความสะดวก ลดภาระ และเพิ่มสภาพคล่องให้ประชาชนและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะสินค้าราคาโรงงานและการจัดสินเชื่อ ให้กับเอสเอ็มอีได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ จะช่วยเสริมสภาพคล่อง รักษาการจ้างงานให้กิจการและสถานประกอบการสามารถดำเนินไปได้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้ต่อไป” นายธนกร กล่าว