วันนี้ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นอกสถานที่ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2565 พร้อมลงนามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 กับรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขนิเทศก์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้อำนวยการกองในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขส่วนกลาง โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ เข้าร่วมการประชุมในงานและออนไลน์กว่า 500 คน ภายใต้มาตรการคัดกรองป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า การดำเนินงานในปีงบประมาณ 2565 ขอให้ยึดตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนโยบายมุ่งเน้นของกระทรวงสาธารณสุข 9 เรื่อง ได้แก่
1. ระบบสุขภาพปฐมภูมิเข้มแข็ง เดินหน้าให้คนไทยมีหมอประจำตัว 3 คน และพัฒนาศักยภาพ รพ.สต.
2. เศรษฐกิจสุขภาพ เพิ่มมูลค่านวัตกรรมผลิตภัณฑ์/บริการสุขภาพ
3. พัฒนาสมุนไพร กัญชา กัญชง และภูมิปัญญาไทย
4. ส่งเสริมสุขภาพดีวิถีใหม่ ให้ประชาชนใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัย
5. ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร 70% ร่วมกับมาตรการ UP, COVID Free Setting และตรวจคัดกรองด้วย ATK
6. ระบบบริการก้าวหน้า ขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่ มะเร็งรักษาทุกที่ สถานพยาบาลพัฒนาระบบรองรับผู้ป่วยโควิด-19 มีสิ่งแวดล้อมดี บริการทันสมัย ใช้เทคโนโลยี
7. การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ดูแลผู้สูงอายุครบทุกมิติ และดูแลสุขภาพจิตเชิงรุก
8. มีธรรมาภิบาล สุจริต โปร่งใส ยึดประโยชน์ของประชาชน และพัฒนาศูนย์ข้อมูลกลางด้านสุขภาพประชาชน
9. เป็นองค์กรแห่งความสุข พร้อมทั้งสร้างผู้นำรุ่นใหม่
ทั้งนี้ ขอให้ใช้องค์ความรู้ด้านสาธารณสุขสร้างชาติ ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้วยสาธารณสุขวิถีใหม่ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า การควบคุมโรคและเร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพราะการฉีดวัคซีนทำได้ง่ายกว่าการดูแลรักษาเมื่อป่วยแล้ว ได้ย้ำนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่งให้จัดทีมฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุก เพื่อเร่งรัดการฉีดวัคซีนในผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และขยายการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มแรงงานต่าวด้าว พร้อมให้จัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2564 เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 100 ล้านโดส เพิ่มความครอบคลุมวัคซีนให้ถึง 70% ของประชากร ซึ่งจะช่วยควบคุมการแพร่ระบาด และทำให้เราสามารถเดินหน้าเปิดประเทศได้อย่างปลอดภัย