xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” ปลื้ม! ไทยเซ็น MOU ตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทาการแพทย์นานาชาติ หวังผลิตยาระดับโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมผู้เชี่ยวชาญกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศและพิธีลงนามความร่วมมือการจัดตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ
“อนุทิน” ยินดีไทย เซ็น MOU ตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทาการแพทย์นานาชาติ มุ่งเป้าผลิตยาคุณภาพระดับโลก

วันนี้ (10 พ.ย.) ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพมหานคร (รางน้ำ) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมผู้เชี่ยวชาญกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ และพิธีลงนามความร่วมมือการจัดตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ ระหว่าง นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ นางนงลักษณ์ โกวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอ็กลีฟ เวิลด์ เมดิกา จำกัด โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาทางการแพทย์จากต่างประเทศเข้าร่วม

นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ให้เกิดเป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย ทั้งการคัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม ส่งเสริมการปลูก เก็บเกี่ยว การสกัดสารสำคัญมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางการแพทย์ โดยผลักดัน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ทำให้นำสารสกัดกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และศึกษาวิจัยได้ ซึ่งมีหลักฐานทางวิชาการชัดเจนว่ามีประโยชน์ในการรักษา เช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดแล้วเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน, โรคลมชักในเด็กที่รักษายากหรือลมชักที่ดื้อต่อการรักษา, ผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง, ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเส้นประสาทที่รักษาด้วยวิธีการต่างๆ แล้วไม่ได้ผล และบรรเทาอาการปวด ช่วยให้ผู้ป่วยที่ดูแลแบบประคับประคองหรือระยะสุดท้ายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังใช้เป็นส่วนประกอบในตัวยาแพทย์แผนไทย และยาแก้นอนไม่หลับ

“ปี 2565 กระทรวงสาธารณสุขยังเน้นนโยบายส่งเสริมพัฒนาสมุนไพร กัญชา กัญชง กระท่อม และภูมิปัญญาไทย ซึ่งกรมการแพทย์มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานพัฒนาพืชสมุนไพร กัญชา ให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ รายได้ และผู้ป่วยได้เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การลงนามความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการวิจัยทางพันธุศาสตร์ของพืชกัญชาทางการแพทย์ พัฒนาสูตรสารสกัด ผลิตยาคุณภาพสูงที่เกิดจากการผสมผสานของกัญชากับพืชสมุนไพรไทย วิจัยทางคลินิกเพื่อการเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ของผู้ป่วยและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน แสดงให้เห็นศักยภาพของประเทศไทย ที่พร้อมเป็นแหล่งความรู้ด้านการวิจัย เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับโลก มีการใช้กัญชาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตและพัฒนายาสมุนไพรจากกัญชาระดับ World class ในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศจะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เช่น แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ เภสัชกร ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชา ร่วมกันทำงานในรูปคณะกรรมการ 3 คณะ คือ 1. คณะกรรมการอำนวยการศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ กรมการแพทย์ 2. คณะกรรมการอำนวยการศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ และ 3. คณะกรรมการทางการแพทย์ศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ เพื่อวิจัยสายพันธุ์และการเพาะปลูกพืชกัญชา สารสกัดกัญชาและสูตรทางการแพทย์ การวิจัยทางคลินิกและการเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ของผู้ป่วย พร้อมจัดตั้งศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับโลกระหว่างสถาบันวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ในประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และไทย กำหนดระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี และจะมีการทำบันทึกข้อตกลงย่อยเป็นรายกรณี เพื่อกำหนดสัดส่วนของผู้มีส่วนร่วมในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น