นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 จำนวน 38,699 คน โดยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการคัดกรอง คิดเป็นร้อยละ 0.3 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ส่วนโครงการสมุยพลัส (Samui Plus) และโครงการส่วนขยายของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 (Phuket Extension) มีจำนวนนักท่องเที่ยว 907 คน และ 399 คน ตามลำดับ
สำหรับมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ณ วันที่ 27 กันยายน 2564 อยู่ที่ประมาณ 2,254 ล้านบาท โครงการสมุยพลัสอยู่ที่ 66,580,000 บาท และสำหรับโครงการส่วนขยายของภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์อยู่ที่ 12,160,000 บาท รวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2,330 ล้านบาท
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายเปิดประเทศด้านการท่องเที่ยว โดยขยายผลและพลิกโฉมการท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก (World Class Destination) ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 และไตรมาสแรกของปี 2565 จำนวน 1 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละไม่น้อยกว่า 5,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งมีการดำเนินการปลดล็อกเงื่อนไข เช่น การลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน การตรวจ RT-PCR ก่อนมาและเมื่อถึงสนามบิน หลังจากนั้นให้ตรวจแบบ ATK หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยออนไลน์แบบหมู่คณะ (Group COE) การอนุญาตเที่ยวบินพาณิชย์ของรัสเซียให้สามารถเดินทางเข้าสู่ภูเก็ต เพื่อพลิกโฉมภูเก็ตสู่สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก (World Class Destination) ในปี 2565 ภายใต้แนวคิด SUPRA ประกอบด้วย
1. Safety สร้างความมั่นในด้านความปลอดภัย
2. Upgrading โดยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและการยกระดับระบบสาธารณสุข
3. Pro-Poor การเยียวยาและดูแลประชาชนฐานราก สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงชีวภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (BCG Tourism)
4. Refine การพัฒนาปรับปรุงทักษะใหม่ๆ ให้กับแรงงาน ควบคู่ไปกับการเพิ่มมูลค่าสินค้า
5. Activities จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและกิจกรรมระดับโลกด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อจัดหาและเร่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชากรในประเทศ ซึ่งตามแผนสิ้นปีนี้ไทยจะมีวัคซีนจำนวน 126 ล้านโดส ประชากรไทย 70 ล้านคน จะได้รับวัคซีน 62 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 90 พร้อมรับการพลิกโฉมการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่ระดับโลก สร้างมาตรฐานด้านสาธารณสุข และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวรวมถึงคนไทยอย่างแน่นอน