วันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ท.เพื่อขอให้ไต่สวนข้อเท็จจริง และชี้มูลเกี่ยวกับการร่ำรวยผิดปกติ และการกระทําการทุจริตในภาครัฐของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อสรุปสํานวนพร้อมทั้งความเห็นส่ง ป.ป.ช. หรือพนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ กรณีนายแพทย์จากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ระบุความเห็นทางการแพทย์ในหนังสือรับรองการตาย อันอาจเป็นเท็จ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อมูล และคลิปเหตุการณ์ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผกก.โจ้ กับพวกรวม 7 คน ใช้ถุงคลุมศีรษะรีดเงิน 2 ล้าน จากพ่อค้ายาเสพติด จนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากว่า เป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นการกระทำของตำรวจไทย จนนำไปสู่คำสั่งของ ผบ.ตร.ให้ตำรวจทั้ง 7 นายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนไปแล้ว
แต่สิ่งที่สังคมไทยสงสัยกันมากยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวนจากส่วนกลางได้ร่วมกันตรวจค้นบ้านผกก.โจ้ ในหมู่บ้านปัญญาอินทรา เขตคลองสามวา กทม.ก็คือ การเจอรถราคาแพงกว่า 13 คัน จอดไว้ในบ้านหรูราวกับเป็นโชว์รูม และยังมีชื่อปรากฏในรถยนต์อื่นอีกกว่า 40 คัน มูลค่ารวมหลายร้อยล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีมูลค่ามหาศาลมากมาย รวมทั้งข้อมูลจากโลกออนไลน์ที่แชร์แชทข้อมูลการพูดคุยกับดาราสาวว่า มีเงินฝากไว้กับนอมินีอีกกว่า 230 ล้านบาทด้วย ซึ่งอาจชี้ชัดได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมีทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช.ที่จะต้องดำเนินการไต่สวนหาความจริงมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น ยังมีกรณีหนังสือรับรองการตายของผู้ต้องหา ที่ออกโดยแพทย์จากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ พร้อมระบุสาเหตุการเสียชีวิตโดย สันนิษฐานว่า ผู้ต้องหาได้เสียชีวิตเพราะพิษจากสารแอมเฟตามีน ซึ่งหลังจากมีเอกสารนี้เปิดเผยออกมา จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอย่างมาก ว่าการกระทำในคลิปกับการระบุสาเหตุการตายในเอกสาร มันขัดแย้งกันหรือไม่ เพราะถ้าเป็นการตายผิดธรรมชาติตามระเบียบต้องมีการผ่าชันสูตรศพเท่านั้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา148 วรรคหนึ่งกำหนด แล้วจึงออกใบชันสูตรศพให้อีกครั้ง ว่าตายจากสาเหตุอะไรกันแน่ ซึ่งจะนำไปสู่การไต่สวนโดยศาล ตามมาตรา 150 ว.3 และ ว.5 ต่อไป
กรณีดังกล่าวเป็นข้อพิรุธทั้ง 2 กรณี วันนี้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ท. และในบางกรณีให้ ป.ป.ท.ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. เพื่อสอบสวนเอาผิดนายตำรวจและนายแพทย์คนดังกล่าว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคมสืบไป