น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีความเป็นห่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้น และต้องการให้ผู้ป่วยถูกคัดแยก กักตัว ให้เร็วที่สุด เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อภายในครอบครัวและชุมชน
กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกแนวทางเวชปฏิบัติ โดยประชาชนที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเอง (Antigen test kit) แล้วพบว่าผลเป็นบวก สามารถเข้าระบบแยกกักตัวแบบดูแลตนเองที่บ้าน Home Isolation โดยแจ้งสายด่วน โทร 1330 ต่อ 14 หรือเพิ่มเพื่อน สปสช. ในระบบไลน์ @nhso ส่วนกลุ่มที่ไม่สามารถดูแลที่บ้านได้ จะเป็นการดูแลในระบบชุมชน (Community Isolation) ศูนย์พักคอย Hospitel หรือโรงพยาบาล ซึ่งจะมีการตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้ง เพื่อป้องกันผลบวกลวง และขอให้ติดต่อ สปสช.เช่นกัน
การดำเนินการนี้เป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อให้ผู้ป่วยโควิด-19 ได้เข้าถึงการบริการได้เร็วขึ้น ผู้ที่เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจด้วย Antigen test kit จัดเป็น "ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (probable case)" ตามนิยามของกรมควบคุมโรค จะได้รับการดูแลรักษาเช่นเดียวกับการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับเครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด และยาที่จำเป็นในทันที มีคลินิกหรือโรงพยาบาลไปดูแล การบริการจะมีการเยี่ยมผ่านระบบวิดีโอคอลวันละ 2 ครั้ง ติดตามอาการ ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงกระบวนการรักษาที่เร็วขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการตรวจและลดช่วงเวลาที่ต้องรอผลตรวจ 1-2 วัน รวมถึงการแยกผู้ป่วยจากครอบครัวและชุมชนได้รวดเร็ว จะลดโอกาสในการแพร่กระจายโรคได้อีกทาง
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้ชุดตรวจเร็ว (ATK) ที่มีการวางจำหน่ายทั่วไปในขณะนี้ เนื่องจากมีหลายชนิดและมีคุณภาพที่แตกต่างกัน หากผลตรวจออกมาเป็นลบแต่ยังสงสัย ก็สามารถตรวจซ้ำใน 3-5 วันได้อีกครั้ง สำหรับการแจกชุดตรวจ ATK ฟรีแก่ประชาชนซึ่งบอร์ด สปสช. ได้อนุมัติแล้วนั้น คาดว่าภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้ จะสามารถแจกจ่ายชุด ATK ไปยังสถานพยาบาล โดยเน้นในพื้นที่สีแดง เพื่อให้สถานพยาบาลส่งชุดตรวจต่อไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยงสำหรับตรวจเองที่บ้านด้วย