น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบรายงานผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดย World Competitiveness Center ของ International Institute for Management Development หรือ สถาบัน IMD สวิตเซอร์แลนด์ ประจำปี 2564 ซึ่งประเทศไทยมีอันดับดีขึ้น 1 อันดับ มาอยู่ในลำดับที่ 28 จากทั้งหมด 64 เขตเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพอใจกับความสามารถการแข่งขันของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น แม้คะแนนเฉลี่ยสุทธิในปีนี้จะลดลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 72.52 แต่ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับเขตเศรษฐกิจทั่วโลกที่คะแนนสุทธิปรับตัวลดลง จากผลกระทบสำคัญเดียวกัน คือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระทบทุกภาคเศรษฐกิจ ทั้งการบริโภค การลงทุนในประเทศ การค้าระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ หากพิจารณาในรายละเอียดจะเห็นว่ามีทั้งปัจจัยที่ปรับตัวดีขึ้น และที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในส่วนของสมรรถนะทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลงภาคการท่องเที่ยวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นายกรัฐมนตรีจึงเน้นย้ำที่จะเร่งฟื้นฟูในส่วนนี้ โดยการตั้งเป้าหมายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวภายใน 120 วัน โดยมีภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นต้นแบบ และขยายผลสู่พื้นที่ท่องเที่ยวหลักอื่นๆ และทั่วประเทศต่อไป โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ให้ประชาชนกลับมาทำมาหากินได้เป็นปกติ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า นอกจากการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจในทุกระดับ ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเชิงรุก เร่งกระจายวัคซีนสู่ประชาชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในระยะสั้นแล้ว รัฐบาลจะยังคงเดินหน้าต่อเนื่องในส่วนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูง การพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ การบังคับใช้กฎหมาย การลดความเหลื่อมล้ำทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม