นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในโครงการพฤกษ์ภิรมย์ ปิ่นเกล้าว่า ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดนนทบุรี ได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการเรียลเอสเตทชื่อดังอักษร “Q” มาก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรบริเวณ ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่ไม่บังคับให้เป็นไปจัดผังจัดสรรที่ขออนุญาต ทำให้ชาวบ้านที่มาซื้อโครงการเสียหายกันถ้วนหน้า เมื่อร้องเรียนผู้ว่าฯ ก็ทำนิ่งเฉยนั้น
ปัญหาการไม่บังคับให้ผู้ประกอบการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรให้เป็นไปตามผังจัดสรรที่ขออนุญาต อาทิ การแก้ไขผังจัดสรรมากว่า 11 ครั้ง โดยไม่ขอความเห็นชอบจาก คชก. หรือสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด ไม่มีการถมพื้นดินหมู่บ้านให้สูงกว่าถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก 60 เมตร ตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาต มีการปิดกั้นทางออกของชาวบ้านพื้นที่ด้านในสุดนอกรั้วโครงการฯ ทั้งๆ ที่เคยรับปากว่าจะทำทางออกให้ มีการขยายพื้นที่จัดสรรเป็นเฟส 2 เฟส 3 และเฟส 4 โดยไม่ขอความเห็นชอบจากผู้อยู่อาศัยในเฟส 1 เสียก่อนตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาต ทำให้ผู้อยู่อาศัยเฟส 1 ต้องแบกรับสาธารณูปโภคส่วนกลางโดยลำพัง
นอกจากนั้น การจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียไม่เป็นไปตามสเปกที่ EIA เห็นชอบ มีการแอบปล่อยน้ำเสียโดยไม่มีการบำบัดออกมาจากหมู่บ้านจัดสรรลงคลองบางค้อ(บางคูลัด) ไปจนถึงคลองบางคูเวียง ทำให้สภาพน้ำมีกลิ่นเหม็นสีคล้ำดำ และมีฟองลอยเต็มคลองไปหมด กลายเป็นแหล่งมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสมาชิกในหมู่บ้านต่างๆและผู้อื่น และยังมีปัญหาอื่นอีกมากมายที่ปล่อยให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้ซื้อโครงการฯ
กรณีดังกล่าวสมาคมฯ และชาวบ้านในหมู่บ้านจัดสรรได้ร้องเรียนไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด และร้องเรียนไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะผู้ให้ความเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA แล้ว รวมทั้งกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งได้ลงมาตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียและการระบายน้ำทิ้งของหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่า น้ำทิ้งที่ปล่อยลงคลองไม่เป็นไปตามมาตรฐานมีค่าแขวนลอย 44.5 มก./ลิตร (มาตรฐานไม่เกิน 40) มีค่าทีดีเอสเพิ่มขึ้นจากน้ำปกติ 695 มก./ลิตร (มาตรฐานไม่เกิน 500) ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากที่ดินจัดสรรตามประกาศของกระทรวงทรัพย์ฯ
ด้วยเหตุดังกล่าวฯ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงร่วมกับชาวบางใหญ่ จ.นนทบุรี เดินทางไปยื่นฟ้องผู้ว่าฯ นนทบุรี คณะกรรมการจัดสรรกลาง คณะกรรมการจัดสรรนนทบุรี และหน.สำนักงานที่ดินบางใหญ่ ต่อศาลปกครองกลางในวันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.64 เวลา 10.00 น. เพื่อขอให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจัดสรร ชดใช้ค่าเสียหาย และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป