นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง "วัคซีนเข็มแรก ความต้องการถ้วนหน้า" กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,051 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 87.9 ต้องการวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยทุกคนได้รับก่อน ส่วนเข็มที่สอง ยอมรับได้ให้ยืดเวลาออกไป รองลงมา คือ ร้อยละ 86.8 ต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนกระจายวัคซีนครอบคลุมคนต้องการทุกพื้นที่เร่งด่วนที่สุด และร้อยละ 83.7 ให้ประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันถ้วนหน้า ตามจำนวนวัคซีนที่มีอยู่
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 81.6 ต้องการให้รัฐบาลจัดอันดับกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง กระจายให้จังหวัดจัดการเอง ในขณะที่ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 81.1 ไม่ต้องการให้เอาวัคซีนไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองในทุกระดับ และร้อยละ 79.6 ต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและภาคส่วนอื่นๆ นำเข้าวัคซีนหลากหลายยี่ห้อ เร็วที่สุด
ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 78.2 มั่นใจค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ต่อการได้ใช้ชีวิตปกติ เช่น เดินทาง ทำงาน ทำธุรกิจ ชอปปิงจับจ่ายใช้สอย หลังจากได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกถ้วนหน้า ในขณะที่ร้อยละ 15.6 มั่นใจปานกลาง และร้อยละ 6.2 มั่นใจค่อนข้างน้อย ถึง ไม่มั่นใจเลย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 78.6 มั่นใจค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ต่อการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังคนไทยได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกถ้วนหน้า ในขณะที่ร้อยละ 14.6 มั่นใจปานกลาง และร้อยละ 6.8 มั่นใจค่อนข้างน้อย ถึง ไม่มั่นใจเลย
นายนพดล กล่าวว่า ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า การที่รัฐบาลจะมุ่งกระจายให้ประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกถ้วนหน้าเร็วที่สุดอย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชาชนทั้่งประเทศ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ผลการศึกษาครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า ขบวนการที่ปล่อยข่าวปลอม สร้างข่าวเท็จ เรื่องคุณภาพของวัคซีน ไม่อาจจะทำลายความต้องการวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ และไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายสร้างข้อมูลสับสน และไม่ต้อกงารให้นำวัคซีนไปหาประโยชน์ทางการเมืองในทุกระดับเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพรรคพวก ขณะเดียวกัน ผลการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นวา ประชาชนเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลปรับแผนกระจายวัคซีน ให้พื้นที่จังหวัดและประชาชนมีส่วนร่วมบริหารจัดการและเปิดช่องทางเข้าถึงมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนเข็มแขกถ้วนหน้าเร็วที่สุด
ทั้งนี้ จำเป็นที่รัฐบาลต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงถึงการบริหารจัดการวัคซีนภาพรวมอย่างตรงไปตรงมา และสื่อสารกับประชาชนอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อบริหารความคาดหวังและสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนในช่วงวิกฤตของประเทศที่เราทุกคนต้องช่วยเหลือกันและกัน
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 81.6 ต้องการให้รัฐบาลจัดอันดับกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง กระจายให้จังหวัดจัดการเอง ในขณะที่ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 81.1 ไม่ต้องการให้เอาวัคซีนไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองในทุกระดับ และร้อยละ 79.6 ต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและภาคส่วนอื่นๆ นำเข้าวัคซีนหลากหลายยี่ห้อ เร็วที่สุด
ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 78.2 มั่นใจค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ต่อการได้ใช้ชีวิตปกติ เช่น เดินทาง ทำงาน ทำธุรกิจ ชอปปิงจับจ่ายใช้สอย หลังจากได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกถ้วนหน้า ในขณะที่ร้อยละ 15.6 มั่นใจปานกลาง และร้อยละ 6.2 มั่นใจค่อนข้างน้อย ถึง ไม่มั่นใจเลย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 78.6 มั่นใจค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ต่อการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังคนไทยได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกถ้วนหน้า ในขณะที่ร้อยละ 14.6 มั่นใจปานกลาง และร้อยละ 6.8 มั่นใจค่อนข้างน้อย ถึง ไม่มั่นใจเลย
นายนพดล กล่าวว่า ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า การที่รัฐบาลจะมุ่งกระจายให้ประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกถ้วนหน้าเร็วที่สุดอย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชาชนทั้่งประเทศ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ผลการศึกษาครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า ขบวนการที่ปล่อยข่าวปลอม สร้างข่าวเท็จ เรื่องคุณภาพของวัคซีน ไม่อาจจะทำลายความต้องการวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ และไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายสร้างข้อมูลสับสน และไม่ต้อกงารให้นำวัคซีนไปหาประโยชน์ทางการเมืองในทุกระดับเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพรรคพวก ขณะเดียวกัน ผลการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นวา ประชาชนเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลปรับแผนกระจายวัคซีน ให้พื้นที่จังหวัดและประชาชนมีส่วนร่วมบริหารจัดการและเปิดช่องทางเข้าถึงมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนเข็มแขกถ้วนหน้าเร็วที่สุด
ทั้งนี้ จำเป็นที่รัฐบาลต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงถึงการบริหารจัดการวัคซีนภาพรวมอย่างตรงไปตรงมา และสื่อสารกับประชาชนอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อบริหารความคาดหวังและสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนในช่วงวิกฤตของประเทศที่เราทุกคนต้องช่วยเหลือกันและกัน