องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 โดยระบุว่า ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศย้ำต่อสาธารณชนให้ “การต่อต้านคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ” ซึ่งนโยบายนี้จะสำเร็จได้ จำต้องเริ่มต้นด้วยการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐอย่างโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล แม้ว่าขณะนี้รัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภา เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 แล้ว แต่มีเสียงคัดค้านจากสังคมว่า แนวทางที่รัฐบาลเสนอนั้นไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ขัดกับแผนการปฏิรูปประเทศฯ และหลักสากล จนน่าเป็นห่วงว่าจะยิ่งทำให้ปัญหาความไม่โปร่งใสในภาครัฐกลับเลวร้ายลงกว่าเดิม
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นด้วยว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ ตามข้อเรียกร้องจากองค์กรสื่อมวลชน นักวิชาการและภาคประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการศึกษาจัดเตรียมร่างกฎหมายใหม่ที่เหมาะสมไว้แล้วโดย สภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศฯ แต่ทั้งหมดกลับไม่ถูกนำมาใช้โดยไม่ทราบสาเหตุ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอเป็นตัวแทนสังคมเรียนเสนอความเห็นต่อท่านนายกรัฐมนตรี ดังนี้
1. ควรนำร่างกฎหมายที่จัดทำไว้โดยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมาใช้ หรือตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำร่างกฎหมายขึ้นใหม่โดยมีตัวแทนจากประชาชน สื่อมวลชน และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนที่สังคมยอมรับร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในสังคม
2. กฎหมายฉบับใหม่ต้องเคร่งครัดตามหลักการที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญฯ ข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ล้วนเห็นสอดคล้องกันแล้ว
วันนี้การต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชันและการแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ จะเป็นอย่างไร คงขึ้นอยู่กับความเข้าใจและความตั้งใจจริงของท่านนายกรัฐมนตรี ด้วยหวังว่าจะเกิดสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นด้วยว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ ตามข้อเรียกร้องจากองค์กรสื่อมวลชน นักวิชาการและภาคประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการศึกษาจัดเตรียมร่างกฎหมายใหม่ที่เหมาะสมไว้แล้วโดย สภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศฯ แต่ทั้งหมดกลับไม่ถูกนำมาใช้โดยไม่ทราบสาเหตุ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอเป็นตัวแทนสังคมเรียนเสนอความเห็นต่อท่านนายกรัฐมนตรี ดังนี้
1. ควรนำร่างกฎหมายที่จัดทำไว้โดยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมาใช้ หรือตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำร่างกฎหมายขึ้นใหม่โดยมีตัวแทนจากประชาชน สื่อมวลชน และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนที่สังคมยอมรับร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในสังคม
2. กฎหมายฉบับใหม่ต้องเคร่งครัดตามหลักการที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญฯ ข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ล้วนเห็นสอดคล้องกันแล้ว
วันนี้การต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชันและการแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ จะเป็นอย่างไร คงขึ้นอยู่กับความเข้าใจและความตั้งใจจริงของท่านนายกรัฐมนตรี ด้วยหวังว่าจะเกิดสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย