นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในวันนี้ (15 ม.ค.) พบว่า พื้นที่ระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีจำนวน 11 พื้นที่ รวมถึงจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดหนองคาย ซึ่งมีแนวโน้มปริมาณค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐานจนถึงวันที่ 16 มกราคมนี้ กรมอนามัยจึงห่วงกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด อาจได้รับผลกระทบทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น จึงขอให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่น โดยยึดหลักปลอดภัยไว้ก่อนคือ ตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ได้ที่ Air4Thai หรือ คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5 ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท งดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ไม่สูบบุหรี่ และดื่มน้ำสะอาด วันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยขับสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย และสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายและคนในครอบครัว
ส่วนประชาชนทั่วไปให้สวมหน้ากากป้องกัน ลดระยะเวลาอยู่นอกอาคาร ช่วยลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 เช่น งดการเผาขยะ ลดการจุดธูป ใช้รถส่วนตัวให้น้อยลง หันมาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า เพื่อเป็นการลดปริมาณค่าฝุ่น และช่วยให้เรามีอากาศที่สะอาดขึ้น
นอกจากนี้ ขอให้เฝ้าระวังอาการตนเอง หากมีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่นๆ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ส่วนประชาชนทั่วไปให้สวมหน้ากากป้องกัน ลดระยะเวลาอยู่นอกอาคาร ช่วยลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 เช่น งดการเผาขยะ ลดการจุดธูป ใช้รถส่วนตัวให้น้อยลง หันมาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า เพื่อเป็นการลดปริมาณค่าฝุ่น และช่วยให้เรามีอากาศที่สะอาดขึ้น
นอกจากนี้ ขอให้เฝ้าระวังอาการตนเอง หากมีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่นๆ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที