xs
xsm
sm
md
lg

"หมอธีระ"แนะใช้หลัก Survivor Game รักษาชีวิตให้รอดปลอดภัย ชี้"ยุทธวิธีเทเลทับบี้"คุมโรคไม่อยู่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า

สถานการณ์ทั่วโลก 6 มกราคม 2564

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 753,429 คน รวมแล้วตอนนี้ 86,691,368 คน ตายเพิ่มอีก 14,5694 คน ยอดตายรวม 1,872,688 คน

อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 264,334 คน รวม 21,507,641 คน ตายเพิ่มอีก 3,353 คน ยอดตายรวม 364,669 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 17,908 คน รวม 10,375,477 คน
บราซิล ติดเพิ่มถึง 58,679 คน รวม 7,810,400 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 24,246 คน รวม 3,284,384 คน

สหราชอาณาจักร ตอนนี้อันดับ 5 ติดเพิ่มทำลายสถิติมากถึง 60,916 คน รวม 2,774,479 คน ถือว่าติดเชื้อต่อวันเกินห้าหมื่นมาอย่างต่อเนื่องถึง 8 วันแล้ว

อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักหมื่นต่อวัน

ฝั่งอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังกลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น

ญี่ปุ่นตอนนี้วิกฤตหนัก ติดเพิ่มทำลายสถิติถึง 4,113 คนในวันเดียว เมื่อวานมีข่าวว่าขาดแคลนพยาบาลที่จะมาดูแลผู้ป่วย จนทางการต้องขอให้สถานศึกษาต่างๆ ช่วยส่งนักศึกษาพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่มีใบประกอบวิชาชีพไปช่วยทำงาน

แถบสแกนดิเนเวีย รอบทะเลบอลติก และแถบยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

เมียนมา เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่เวียดนาม นิวซีแลนด์ และกัมพูชามีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

สถานการณ์ในเมียนมา เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 649 คน ตายเพิ่มอีก 22 คน ตอนนี้ยอดรวม 127,584 คน ตายไป 2,766 คน อัตราตายตอนนี้ 2.2%

สำหรับเมืองไทยเรา มีแนวโน้มว่ามาตรการต่างๆ จะเป็นไปในลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ

คาดว่าจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านมาตรการหลัก ไปจนกว่าจะสิ้นเดือนมกราคม

และหากเป็นเช่นนั้น ให้ทำใจเผื่อไว้ว่า แม้จะปฏิบัติกันตามแนวทางที่มีอย่างเต็มที่ ก็จะทำได้เพียงยันกระแสการระบาดได้ระดับหนึ่ง เปรียบเหมือนน้ำท่วมทะลักเข้าพื้นที่ แต่มาตรการต่างๆ อันเปรียบเหมือนกำแพงและเครื่องสูบน้ำนั้นมีไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ในพื้นที่มีน้ำขังอยู่มากบ้างน้อยบ้างตามแต่จะจัดการกันไป หวังเพียงไม่ท่วมหนักจนจมน้ำหายใจไม่ออก

การรับมือการระบาดซ้ำครั้งนี้ต่างจากรอบที่แล้ว เพราะไม่ได้สั่งการให้ดำเนินการ แต่ใช้ลักษณะยุทธวิธีน่ารักแบบเทเลทับบี้ รณรงค์ให้ทำ และเกลี่ยความรับผิดชอบให้แต่ละพื้นที่ไปจัดการกันเอง

วิเคราะห์ในแง่ดี คือ แนวทางการกระจายอำนาจการจัดการไปสู่ระดับจังหวัด หากทำอย่างเต็มรูปแบบ ไม่มายกเลิกกันแบบต่อหน้าต่อตาก็จะดี แต่ละจังหวัดทั้งหน่วยงานในพื้นที่และประชาชนจะได้มีอิสระในการปกป้องถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเองอย่างเต็มที่

แต่อุปสรรคใหญ่ที่เรากำลังจะเจอในไม่ช้า และบางแห่งก็กำลังเผชิญอยู่แล้วคือ โครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรในพื้นที่ที่มีความแตกต่างกันมาก ทำให้เกิดการขาดแคลนทั้งเรื่องคน เงิน อุปกรณ์ต่างๆ จนหลายแห่งที่ระบาดหนักจำเป็นต้องเปิดขอรับบริจาคหรือขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ในสังคม

ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราทุกคนต้องดูแลตัวเองและครอบครัวให้ดี อย่างน้อยที่สุดคืออย่าให้ติดเชื้อหรือป่วย เพราะจะทำให้เสี่ยงทั้งต่อตัวเองที่จะได้รับการดูแลได้ไม่ทั่วถึงแล้ว ยังเป็นภาระแก่ระบบต่างๆ ในสังคมด้วย

การดูแลตนเองให้ดีนั้น แม้จะยากลำบากสักหน่อย หรือฝืนการดำเนินชีวิตประจำวันไปบ้างไม่มากก็น้อย แต่เป็นหัวใจหลักในการต่อสู้กับศึกโรคระบาดซ้ำครั้งนี้ เพราะ "ยุทธวิธีน่ารัก" นั้นจะไม่สามารถจัดการการระบาดได้ในระยะเวลาสั้น จึงต้องอาศัยความอึดเป็นหลักในการรักษาชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัย แบบ Survivor game

มีหลายท่านถามมาเมื่อวานนี้ว่า ถ้าจะเลือกวิธีสู้ จะสู้แบบไหน ผมตอบไปว่า หากย้อนกลับไปสองสัปดาห์ก่อน ผมจะเลือกทำ Regional lockdown ในระยะสั้น เพื่อให้จัดการศึกนี้ไม่ให้ลุกลามครับ

แต่ตอนนี้ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว การระบาดกระจายไปทั่ว และยากที่จะตรวจหาคนติดเชื้อได้ครบถ้วนทุกพื้นที่ เพราะมีติดเชื้อแฝงไปทั่วในชุมชนต่างๆ ทั้งกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มคนทั่วไป แถมระบบการตรวจของประเทศก็มีศักยภาพที่จำกัด หากจะจัดการตอนนี้ จำเป็นต้องเข้มข้นอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศให้ทันเวลาทอง ไม่งั้นก็ยาวอย่างที่วิเคราะห์มา

เอาใจช่วยทุกคนให้มีกำลังกายกำลังใจป้องกันตนเองและครอบครัว รวมถึงบุคลากรในพื้นที่ทุกท่าน

ใส่หน้ากากเสมอ
อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ หากท่านทำได้
ทํางานที่บ้าน หากท่านทำได้
ล้างมือบ่อยๆ
อยู่ห่างจากคนอื่นๆ
ซื้อกลับไปกินที่บ้าน
คอยสังเกตอาการตนเองหากไม่สบายให้รีบไปตรวจ

ด้วยรักต่อทุกคน