น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน เลขานุการชมรมทนายอาสาเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยสมาชิกชมรมทนายอาสาเพื่อประชาธิปไตย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ทัพพสาร ปานแสง รองสารวัตรสอบสวนกองกำกับการ 1 กองปราบปราม เพื่อแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่เรียกร้องให้บังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 ต่อกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร และกลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆ ที่ออกมาเรียกร้องทางการเมืองในปัจจุบัน เนื่องจากมองว่าการบังคับใช้มาตรา 112 เป็นการสร้างความขัดแย้งในสังคม ขัดต่อพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ที่ไม่ให้ใช้กฎหมายนี้
น.ส.เบญจรัตน์ กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวเเม้จะไม่ได้ระบุชัดว่าให้ดำเนินคดีด้วยมาตราใดบ้าง เเต่เหมือนเปิดโอกาสให้กลุ่มคนบางคน สามารถนำมาตรา 112 มาแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ซึ่งขัดกับพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เเละรัชกาลที่ 10 ที่เคยสั่งไม่ให้ใช้มาตรา 112 เพราะไม่ต้องการให้ผู้มีความเห็นต่างทางการเมืองได้รับโทษที่หนักตามกฎหมาย ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ เอง ก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า หากมีการบังคับใช้มาตรา 112 เป็นการขัดต่อพระราชดำรัสของพระองค์ ซึ่งจะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เสียหาย เนื่องจากมาตรานี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งทางการเมืองมานาน ส่วนตัวยังมองว่า การใช้มาตรา 112 จะทำให้คนไทยเกิดความแตกแยก และทำให้พระมหากษัตริย์กลายเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน จึงไม่สมควรที่จะนำมาใช้อีก หากบุคคลผู้แจ้งความร้องทุกข์ รักสถาบันจริง ต้องไม่นำเอามาตรา 112 มาทำลายชาวไทยด้วยกัน และต้องทำให้เกิดความปรองดองรักใคร่สถาบันยิ่งขึ้น นั่นคือสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องทำ การสร้างความแตกแยกในคนไทยด้วยกันถือว่าเป็นการทำลายชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ ในวันนี้ทางชมรมจึงได้มากองปราบฯ เพราะต้องการตรวจสอบและหากพบผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวก็ขอให้พิจารณาดำเนินคดีในฐานความผิดแจ้งความเท็จเพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางคดีอาญาโดยที่ไม่ได้มีการกระทำความผิดจริง และยุยงปลุกปั่น โดยทันที
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการตามตามขั้นตอนต่อไป