xs
xsm
sm
md
lg

'ดร.นิว'เบิกเนตรม็อบราษฎร ซัดนิทาน'สมศักดิ์-ปวิน'ใส่ร้ายป้ายสีทำลายสถาบัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas โพสต์เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ระบุว่า เบิกเนตรม็อบราษฎร

เรื่องโกหกมักจะมาก่อนความจริงเสมอ

นายสมศักดิ์เจียม ลุงปวินสุรชัย ฯลฯ ต่างมุ่งทำลายสถาบันฯ ด้วยการใส่ร้ายป้ายสีสร้างความเกลียดชัง ประเด็นหนึ่งคือการพำนักของในหลวงที่ประเทศเยอรมนี จนมีกลุ่มแนวร่วมใหม่ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คณะก้าวหน้า ม็อบราษฎร ฯลฯ แต่ประเด็นดังกล่าวก็เงียบสนิทไป เมื่อรัฐบาลเยอรมนีได้ออกมายืนยันอย่างชัดเจน ในหลวงไม่ได้ละเมิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น กลุ่มคนเหล่านี้จึงหยุดกล่าวถึงประเด็นดังกล่าว แล้วหันไปหลอกมวลชนด้วยประเด็นอื่นๆ แทน

ตอนนี้มาถึงตาของนิทานเรื่อง "วังวชิราลงกรณ์คอมเพล็กซ์" ที่เละเป็นโจ๊กตามไปอีก เพราะที่ผ่านมาก่อนหน้านี้มีความชัดเจนแล้วว่า สนามม้านางเลิ้งจะถูกพัฒนาเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ ให้ประชาชนได้มาพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย ไม่ใช่อย่างที่นายสมศักดิ์เจียมหลอกลวง

มาวันนี้ 22 พ.ย. 2563 - ทุกอย่างก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อในหลวงทรงพระราชทานโฉนดที่ดินจำนวนมาก เพื่อส่วนราชการต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้มีพื้นที่ซึ่งถูกนายสมศักดิ์เจียมแอบอ้างใส่เข้าไปในนิทานหลอกเด็กรวมอยู่ด้วย

- โฉนดที่ดิน 10 ไร่ 2 งาน 65.70 ตารางวา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนราชวินิต
- โฉนดที่ดิน 6 ไร่ 3 งาน 22 ตารางวา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนราชวินิต มัธยม
- โฉนดที่ดิน 60 ไร่ 1 งาน 80 ตารางวา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
- โฉนดที่ดิน 37 ไร่ 1 งาน 10 ตารางวา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

นับตั้งแต่วันที่ในหลวงเติบโตขึ้นมาจนถึงวันนี้ พระองค์ได้ตามรอยพระราชบิดามาโดยตลอด แม้พระองค์จะมีความดีมากเพียงใด แต่ม็อบราษฎรไม่เคยสนใจสิ่งเหล่านี้ กลับสนใจแต่ข้อมูลบิดเบือนใส่ร้าย ตามชุดความคิดที่ถูกป้อนโดยไม่รู้ตัวผ่านโซเชียลมีเดีย ไม่ต่างจากโรคระบาด เต็มไปด้วยโปรแกรมของความเกลียดชังและความอาฆาตมาดร้าย ภายใต้กระบวนการปั่นกระแสโซเชียลมีเดีย อัลกอริทึม ตลอดจนเสียงสะท้อนในเอคโค่แชมเบอร์ หรือ กะลา นั่นเอง

หากจะบอกว่าม็อบราษฎรคิดได้เองก็ไม่จริง เพราะข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯของม็อบมาจากนายสมศักดิ์เจียม ซึ่งแค่ข้อแรกก็ผิดหลักวิชาการเสียแล้ว ความคุ้มกันของสถาบันฯเป็นพื้นฐานระบอบการปกครอง มีอยู่ในทุกประเทศซึ่งมีระบอบการปกครองเดียวกัน

หากจะบอกว่าม็อบราษฎรไม่มีแกนนำก็ไม่จริง เพราะมีแกนนำอยู่หลายระดับ ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการลงถนน ไปจนถึงระดับหัวสมองที่คอยคิดแผนการเคลื่อนไหวทั้งหมดอยู่ในวอร์รูม ทั้งหมดเป็นเพราะการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือชี้นำทางความคิดและควบคุมพฤติกรรม บวกกับเงินทุนจำนวนมากจากต่างประเทศ ทั้งๆที่เมื่อไม่กี่ปีก่อน เป็นแค่เพียงลัทธิเล็กๆในซอกหลืบของรั้วมหาวิทยาลัย

หากจะบอกว่าม็อบราษฎรเป็นความหวังของสังคมก็ไม่จริง เพราะปากบอกอยากปฏิรูป แต่จ้วงจาบหยาบช้าไม่มีหยุด

ปากบอกหยุดคุกคามประชาชน แต่คุกคามตำรวจถึงที่

ปากบอกสันติ แต่รนหาเรื่องก่อความวุ่นวายทุกครั้ง

ปากบอกภาษีกู แต่ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ

ปากบอกต้องการอนาคตที่ดี แต่สร้างภาระให้สังคม

ปากบอกปัญญาชน แต่พฤติกรรมหยาบคายต่ำตม

ปากบอกขี้ข้าเผด็จการ แต่เป็นขี้ข้าอำมหิตที่ชักใยม็อบ

ปากบอกปลดแอก แต่ยอมแบกแอกรับใช้นักการเมือง

ปากบอกรักสิทธิมนุษยชน แต่เหยียดคนอื่นเป็นสัตว์

ปากบอกรักความเท่าเทียม แต่ละเมิดกฎหมายเสียเอง

ปากบอกรักเสรีภาพ แต่ละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นไปทั่ว

ปากบอกต้องการประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมอนาธิปไตย