นายศิวัช พงษ์เพียจันทร์ โฆษกกรมควบคุมมลพิษ แถลงถึงการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ว่า สภาพอากาศในวันนี้อยู่ในระดับดี ถึง ดีมาก โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก แต่สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่าเริ่มมีบางพื้นที่ที่ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ได้แก่ ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนคลองทวีวัฒนา 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม8 เขตหนองแขม 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนเอกชัย เขตบางบอน 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต.มหาชัย อ.เมือง สมุทรสาคร 67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนสภาพอากาศในวันพรุ่งนี้ กรมควบคุมมลพิษคาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นจะมีแนวโน้มลดลง เพราะไทยจะได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชันหว่ามก๋อ ที่จะอ่อนกำลังลงเป็นความกดอากาศต่ำ ทำให้อากาศไหลเวียนได้ดี แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ช่วงวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 จะเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ที่น่าเป็นห่วง คือ ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเทพมหานคร หรือ ฝั่งธนบุรี รวมทั้งจังหวัดสมุทรสาคร นนทบุรี เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย
ขณะที่พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าพรุ่งนี้จะมีฝนตกในพื้นที่ จึงช่วยลดปริมาณฝุ่นลงไปได้ แต่ 2-3 วันหลังจากนี้ไป ค่าฝุ่นอาจเพิ่มขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ลดทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมทั้งสามารถติดตามสภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK
โฆษกกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ประเทศไทยประสบความสำเร็จและได้รับคำชมเชยในการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ดังนั้นหากทุกคนร่วมมือกันอีกครั้ง ก็เชื่อว่าจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตฝุ่นละอองครั้งนี้ไปได้ โดยช่วยกันลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง เช่น การเผาไหม้จากท่อไอเสีย หรือการเผาขยะ เผาวัชพืช และพืชผลทางการเกษตร
ส่วนสภาพอากาศในวันพรุ่งนี้ กรมควบคุมมลพิษคาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นจะมีแนวโน้มลดลง เพราะไทยจะได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชันหว่ามก๋อ ที่จะอ่อนกำลังลงเป็นความกดอากาศต่ำ ทำให้อากาศไหลเวียนได้ดี แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ช่วงวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 จะเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ที่น่าเป็นห่วง คือ ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเทพมหานคร หรือ ฝั่งธนบุรี รวมทั้งจังหวัดสมุทรสาคร นนทบุรี เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย
ขณะที่พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าพรุ่งนี้จะมีฝนตกในพื้นที่ จึงช่วยลดปริมาณฝุ่นลงไปได้ แต่ 2-3 วันหลังจากนี้ไป ค่าฝุ่นอาจเพิ่มขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ลดทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมทั้งสามารถติดตามสภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK
โฆษกกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ประเทศไทยประสบความสำเร็จและได้รับคำชมเชยในการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ดังนั้นหากทุกคนร่วมมือกันอีกครั้ง ก็เชื่อว่าจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตฝุ่นละอองครั้งนี้ไปได้ โดยช่วยกันลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง เช่น การเผาไหม้จากท่อไอเสีย หรือการเผาขยะ เผาวัชพืช และพืชผลทางการเกษตร