กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานจากอิทธิพลพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ถึงปัจจุบัน (16 พ.ย.63) มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันน้ำไหลหลากดินสไลด์ และวาตภัย รวม 37 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง อุทัยธานี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล สงขลา และยะลา รวม 163 อำเภอ 583 ตำบล 2,550 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 93,936 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 33 จังหวัด ยังคงมีน้ำท่วมขัง 2 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมาและสุพรรณบุรี พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี กาญจนบุรี พังงา ชุมพร และอุบลราชธานี พื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ภูเก็ต สตูล และกระบี่
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับจังหวัดหน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ อีกทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อการดำรงชีพ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยติดต่อของรับความช่วยเหลือได้โดยด่วนทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง