นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อ 25 ก.ค.62 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการกําหนดเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดําเนินการ เพื่อบรรเทาปัญหาและลดผลกระทบกับประชาชน และระบบเศรษฐกิจ เรื่องแรกที่ต้องรีบเร่งดำเนินการคือ การแก้ไขปัญหาในการดํารงชีวิตของประชาชน โดยลดข้อจํากัดในการประกอบอาชีพของคนไทย การทบทวนรูปแบบและมาตรฐานหาบเร่แผงลอยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อยังคงเอกลักษณ์ของเมืองหลวงแห่งร้านอาหารริมถนนนั้น แม้ กทม.จะออกประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ลงวันที่ 28 ม.ค.63 แล้วก็ตาม แต่ทว่าเป็นประกาศที่มีเงื่อนไขที่บีบรัดจนไม่สามารถปฏิบัติได้ และปรากฏว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของคน กทม. ได้ยกเลิกจุดผ่อนผันไปแล้วกว่า 508 แห่ง คงเหลือจุดที่ผ่อนผันให้ขายได้เพียง 175 แห่งเท่านั้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อหาบเร่/แผงลอยมากกว่า 170,000 ราย ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค คนยาก คนจน ในระดับรากหญ้า ที่ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในยุคที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 อย่างมาก เพราะไม่มีศักยภาพที่เพียงพอที่จะไปซื้อหาอาหาร หรือสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสะดวกซื้อ หรือคอนวีเนียนสโตร์ขนาดใหญ่ได้ หาบเร่/แผงลอยจึงที่ที่พึงที่ดีที่สุดของคนยากคนจน คนทำงานระดับกลางจนถึงล่างอยู่ในขณะนี้
การที่ กทม.ใช้มาตรการกำจัดจุดผ่อนผันหรือยกเลิกมิให้มีหาบเร่/แผงลอยเป็นจำนวนมากดังกล่าว ทำให้เกิดการสูญเสียรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานรากไม่น้อยกว่า 67,728 ล้านบาทต่อปี และหากจะพิจารณาในการประกอบการค้าหาบเร่/แผงลอยและสตรีทฟู๊ดสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างน้อย 675,162 ล้านบาทต่อปี การที่ กทม.ไม่ส่งเสริมอาชีพหาบเร่/แผงลอย ทำให้ประเทศชาติเสียโอกาสในการสร้างรายได้ หรือการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP หลายล้านล้านบาทเลยทีเดียว
นอกจากนั้น ยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยอยู่ว่า การที่ กทม.ฝ่าฝืนนโยบายของรัฐบาลโดยการยกเลิกจุดผ่อนผันไปเป็นจำนวนมากนั้น เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แต่เฉพาะร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วทุกตรอกซอกซอย ทั่วเมือง ทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้ด้วยหรือไม่ ทั้งๆที่ขณะนี้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่/แผงลอยได้มีการรวมตัวกันตั้งคณะกรรมการในการบริหารเพื่อจัดระเบียบแผงค้าด้วยกันเอง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาด ไม่กีดขวางทางเท้า ไม่ล้ำผิวทางจราจร ไม่ขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย ตามเงื่อนไขของทางราชการแล้วก็ตาม
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำตัวแทนพ่อค้าหาบเร่/แผงลอยทั่วพื้นที่ กทม. เดินทางไปยื่นคำร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อขอให้สั่งปลดผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง ที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และเร่งรีบดำเนินการให้ความช่วยเหลือหาบเร่/แผงลอยให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาและให้เป็นไปตามนโยบายของ ศบค.เศรษฐกิจต่อไปด้วย โดยจะไปยื่นในวันศุกร์ที่ 11 ก.ย.63 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาล