นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีโรงพยาบาลรามาธิบดี ตรวจพบหญิงไทย 2 ราย ติดเชื้อโควิด-19 โดยรายแรกเป็นซากเชื้อ และอีกรายอยู่ระหว่างรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (แล็บ) อีกครั้ง และอยู่ระหว่าวการสอบสวนโรค ว่า คิดอยู่เสมอว่าวันหนึ่งต้องพบการติดเชื้อในประเทศ อาจเป็นเคสนี้ หรือเคสหน้า แต่ต้องเจอเหตุการณ์นั้นแน่นอน กระทรวงสาธารณสุขจึงไม่เคยประมาท และได้วางแผนรองรับสถานการณ์ไว้หมดแล้ว โดยยึดมั่นหลักการเดิมคือ ตรวจเร็ว คุมเร็ว รักษาเร็ว หากพบการติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จะรีบเข้าไปตีวงตรวจเชื้อ และควบคุมโรค จำกัดวงการระบาดทันที
นายอนุทิน กล่าวว่า ทีมแพทย์ของไทยมีประสบการณ์มาแล้วจากการระบาดรอบแรก ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้สำรองยา เวชภัณฑ์ เครื่องช่วยหายใจ รวมไปถึงเตียง ไว้จำนวนมาก การให้ยาฟาวิพิราเวียร์จะไม่รอใช้กับผู้ป่วยอาการหนัก แต่จะใช้ทันทีเมื่อเห็นสมควร อาจมีอาการเล็กน้อย ก็มีสิทธิ์ได้ใช้ยาแล้ว เพราะเตรียมพร้อมไว้ทุกทาง ดังนั้นขอให้ประชาชนคลายความกังวล
อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังต้องสวมหน้ากาก และมีวินัยในการใช้ชีวิต เพราะเป็นวิธีป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดในขณะนี้ ที่ผ่านมา ประชาชนคนไทยเก่งมาก กว่า 70% สวมหน้ากากเป็นประจำ จุดนี้ทำให้การระบาดที่จะเกิดขึ้น ก็จะไม่รุนแรง และอยู่ในขอบเขตที่รับมือได้ ดังนั้น ขอให้คนไทยรักษาวินัยต่อไป