นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการรับมือโรคโควิด-19 ขณะนี้สิ่งที่ไทยยังขาด คือวัคซีน เช่นเดียวกับทั่วโลก ซึ่งวัคซีนที่กำลังจะมีในอนาคตไม่อาจซื้อได้ด้วยเงิน แต่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมตั้งแต่แรกจึงจะมีสิทธิ์เข้าถึงได้ก่อน ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงได้พยายามเข้าไปเป็นหุ้นส่วนสนับสนุนการพัฒนาของต่างประเทศที่มีหวังว่าจะพัฒนาวัคซีนได้สำเร็จ เพื่อให้ไทยมีสิทธิ์เข้าถึงวัคซีนได้ทันทีที่สำเร็จ และมีสิทธิ์ใช้เทคโนโลยีที่สำเร็จเพื่อผลิตในประเทศไทยได้ ซึ่งในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ จะนำ MOU ตัวแรกที่ทำไว้กับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณในการเข้าร่วมต่อไป
นายอนุทิน กล่าวว่า เบื้องต้น MOU นั้นเป็นการไปร่วมพัฒนา ค้นคว้าวิจัย และทดลองวัคซีนร่วมกัน โดยสถานบันการแพทย์ของไทย ร่วมกับสถานบันการแพทย์ของแพทย์ต่างประเทศ และผู้ผลิตวัคซีน ร่วมกันทดลองวัคซีน หากได้ผลที่ดีไทยก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการค้นพบวัคซีนตัวนั้นๆ ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาผลิตวัคซีนในไทยได้ โดยงบประมาณที่จะเสนอขอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ถือเป็นการเตรียมความพร้อม ทั้งด้านวิชาการ การผลิต และการนำมาใช้ให้กับประชาชนเป็นหลัก โดยงบประมาณเบื้องต้นที่จะเสนอขออยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่จะนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นงบกลาง หรืองบเงินกู้ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี หรือการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี เนื่องจากต้องดูหลายปัจจัย เพราะหากใช้งบเงินกู้อาจไม่ทัน เนื่องจากต้องมีขั้นตอน การใช้งบกลางอาจจะรวดเร็วขึ้น และไทยต้องการความรวดเร็ว หากไปทีหลังอาจมีปัญหาได้ เพราะเทคโนโลยีนี้หากไทยไปไม่ทัน ต่างประเทศอาจไปร่วมมือกับประเทศอื่นได้ และไม่สามารถจะร่วมมือกับประเทศไทยได้ เพราะทุกอย่างมีเงื่อนไขหลายปัจจัยประกอบ
ส่วนความคืบหน้าการผลิตวัคซีนของไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้เพิ่มขั้นตอนแต่ละเฟสซึ่งใกล้มาถึงการทดลองในคนแล้ว การอนุมัติของ อย.จะอนุมัติตามหลักวิชาการ และผู้ที่ทดลองวัคซีนในไทย คือคณะแพทยศาสตร์ต่างๆ ทั้งจุฬาลงกรณ์ ศิริราช เป็นต้น ดังนั้นข้อมูลต่างๆ ไทยต้องนำมาประกอบ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ อย. จะนำมาพิจารณา คือเรื่องความปลอดภัยของผู้ที่ได้ทดลองวัคซีน เพราะจะเกิดความเสี่ยงในมนุษย์ไม่ได้ จึงต้องมั่นใจก่อนถึงจะมาใช้ในคนได้ ซึ่งนโยบาย คือ ต้องอนุมัติให้รวดเร็ว แต่ต้องคำนึงถึงปลอดภัยด้วย