“รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์” โพสต์ข้อความถึงนายกรัฐมนตรี และ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แนะมาตรการสถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน หากปล่อยไปนานกว่านี้ อาจจะเจอระลอกสอง
จากกรณี นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ออกมาเปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งการพบผู้ป่วยคนดังกล่าวมาจากคลินิกเออาร์ไอ ซึ่งเป็นคลินิกโรคระบบทางเดินทางหายใจ ทำการตรวจรักษาอยู่ที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เบื้องต้นทราบว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นคนไทย ที่เคยพักอยู่ใน State Quarantine และครบกำหนด 14 วันแล้วจึงออกมาใช้ชีวิตปกติ
ต่อมา เมื่อวันที่ 19 ส.ค. เพจ “Thira Woratanarat” หรือ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความแนะถึงมาตรการเร่งด่วนที่นายกรัฐมนตรีและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ควรพิจารณามีทั้งหมด 7 ข้อ โดยระบุว่า
“1. จัดจุดบริการตรวจคัดกรองโควิดแบบถาวรในชุมชนเมืองทุกจังหวัด ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
2. สร้างระบบการแจ้งผลการตรวจคัดกรองให้แก่ประชาชน พร้อมคำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังตรวจและรอผลตรวจที่บ้าน
3. ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนที่มีอาการไม่สบาย ไข้ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสไม่ได้ หรือท้องเสีย มาตรวจได้ที่จุดคัดกรองใกล้บ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมแจกอุปกรณ์ป้องกันตัวให้แก่ผู้มาตรวจและสมาชิกในครอบครัว
4. ออกมาตรการตรวจโควิดในผู้ป่วยทุกรายที่มีอาการดังข้อสาม ที่มารับบริการดูแลรักษาในทุกสถานพยาบาลทุกแห่ง
5. ยุติการดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายฟองสบู่ท่องเที่ยวในทุกรูปแบบ
6. ปรับระบบการศึกษา ให้มีทางเลือกควบคู่กันไปทั้งการเรียนในสถานศึกษา และเรียนจากบ้าน โดยผสมผสานแบบออนไลน์ และการให้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่อยู่ในวิสัยที่ผู้ปกครองจัดการได้ พร้อมปรับระบบการประเมินผล
7. รื้อวงจรอำนาจบริหารนโยบายสุขภาพ-ท่องเที่ยว-เดินทาง ไม่ให้ตกอยู่ในวงอำนาจเดียว และหยุดนโยบายที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดซ้ำในสังคม
เราทั้งประเทศช่วยกันกอบกู้สถานการณ์ระบาดระลอกแรกมาได้ เพราะการตัดสินใจที่ถูกต้องและถูกเวลา
ณ วันนี้ เป็นช่วงวิกฤติ หัวเลี้ยวหัวต่อ ที่จำเป็นต้องตัดสินใจอีกครั้ง
หากปล่อยไปนานกว่านี้ เราจะเจอระลอกสอง ที่หลายประเทศกำลังประสบอยู่อย่างลำบาก ควบคุมยาก ใช้เวลานาน และส่งผลกระทบมากมาย”
