พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบเหตุอุทกภัยและผู้ได้รับผลกระทบ
วันนี้ (10 สิงหาคม 2563) เวลา 09.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี ไปประชุมและติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
ต่อจากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,000 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัยและผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดน่าน ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นและเป็นขวัญกำลังใจ
ในโอกาสนี้ องคมนตรีได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และเจ้าหน้าที่ให้ทราบ
ในการนี้ องคมนตรีได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย และผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่อำเภอเวียงสา จำนวน 10 ครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก โดยเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ พร้อมกับพูดคุยสร้างขวัญกำลังใจเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตตามปรกติสุขต่อไป โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจิตอาสาพระราชทาน ได้เร่งให้ความช่วยเหลือ ซ่อมแซม และฟื้นฟูบ้านเรือนราษฎร ถนน และพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายเป็นการเร่งด่วน แล้ว
จังหวัดน่าน แบ่งการปกครองออกเป็น 15 อำเภอ 99 ตำบล 890 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซร้อนซินลากู (SINLAKU) และหย่อมความกดอากาศต่ำแพร่ปกคลุมภาคเหนือของประเทศไทย เมื่อวันที่ 1-5 สิงหาคม 2563 ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นวงกว้างในพื้นที่จังหวัดน่าน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ทำให้บ้านเรือนราษฎร ทรัพย์สิน ถนน สะพาน และพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ 15 อำเภอ 63 ตำบล 387 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหาย ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 7,892 ครัวเรือน