นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 พร้อมนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการจัดกิจกรรมจิตอาสา "ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน" ณ ท้องสนามหลวง
นายธีรภัทร กล่าวว่า รัฐบาลจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ทุกหมู่เหล่าได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ และเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย
สำหรับกิจกรรมจิตอาสา "ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2563 สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทําให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจเเละสังคม ส่งผลให้ประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อน หน่วยงานภาครัฐจึงได้ร่วมกับเอกชนจัดกิจกรรมนี้ขึ้น โดยแบ่งกิจกรรมเป็น 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการภายในชุมชน ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการฝึกอาชีพ/สาธิต ด้านสุขภาวะ/อนามัย และด้านอื่นๆ
สำหรับประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม ขสมก.จัดรถเมล์บริการฟรี เที่ยวแรกเวลา 08.00-19.00น.จำนวน 3 เส้นทาง คือ เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามหลวง หัวลำโพง-สนามหลวง วงเวียนใหญ่-สนามหลวง ขณะเดียวกัน กรมเจ้าท่ายังจัดเรือข้ามฟากฟรี ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00น. ณ ท่าเรือวัดอรุณ ท่าช้าง และท่าวัดระฆัง
นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกับอาหารและเครื่องดื่มบริการประชาชนทุกวัน โดยกำหนดให้บริการจำนวน 4 ช่วงเวลา คือ รอบที่ 1 เวลา 10.00-12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 12.00-14.00น รอบที่ 3 เวลา 14.00-16.00 น. และรอบที่ 4 เวลา 16.00-18.00 น.
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า รัฐบาลยังจัดทำสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาจำนวน 3 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 เรื่อง สืบสานงานแผ่นดิน ตอนที่ 2 เรื่อง ส่งเสริมการศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และตอนที่ 3 เรื่อง การเสริมสร้างสุขปวงประชา จึงขอเชิญชวนประชาชนติดตามชมผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ช่วงหลังข่าวในพระราชสำนัก
สำหรับในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ จะมีพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 69 รูป มารับบิณฑบาต ในส่วนกลางจัดพิธีที่ท้องสนามหลวง โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี ขณะที่ผู้ร่วมพิธีประกอบด้วย คณะองคมนตรี ผู้บริหารหน่วยราชการในพระองค์ ผู้บัญชาการเหล่าทัพและตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ขณะที่ในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจะจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ส่วนในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลจะจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม ขณะที่ในเวลา 19.00 น. วันเดียวกัน จะมีพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี ณ ท้องสนามหลวง
ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีจุดเทียนฯ สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ร่วมกับบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) จัดแสดงโดรนจำนวน 500 ลำ แปรอักษรเทิดพระเกียรติจำนวน 2 ชุด รวม 10 แบบ ณ บริเวณสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งประชาชนสามารถรับชมการแสดงโดรนดังกล่าวได้ทุกพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง และทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเครื่องราชสักการะและจัดที่สำหรับลงนามถวายพระพรชัยมงคล รวมทั้งตกแต่งสถานที่ประดับธงชาติคู่กับธงอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. พร้อมเชิญชวนประชาชนแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง