นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด และผู้อำนวยการโครงการในพระดำริฯ สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายแพทย์ พยาบาลในโรงพยาบาลเเห่งหนึ่งที่จังหวัดสมุทรปราการ สาเหตุเพราะไม่พอใจที่เข้าใจผิดไปว่าแพทย์รักษาเพื่อนช้าทำให้เพื่อนตาย ว่า คดีทำร้ายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่ผ่านมา พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลขอให้ลงโทษสถานหนักและไม่รอลงอาญามาหลายสำนวนแล้ว เพราะโรงพยาบาลควรเป็นสถานที่ซึ่งปลอดภัยที่สุด คราวนี้กลับกระทำต่อบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ใครคิดกระทำอีกขอให้เลิก
ก่อนหน้านี้เคยมีคดีวัยรุ่นเมาในสถานบันเทิง ชอบใช้กำลังทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาล พวกนี้อยากกร่าง ก็กร่างให้สุด แต่ต้องไปหยุดที่เรือนจำ อัยการฟ้องโทษหนักแน่นอน คดีจำพวกนี้ศาลพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญามาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ศาลจังหวัดอ่างทองสั่งจำคุกวัยรุ่น 9 คน ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในสถานบันเทิงจนบาดเจ็บ แม้จะส่งไปรักษายังโรงพยาบาลอ่างทองแล้ว แต่คู่กรณียังไม่เลิก ตามมาทำร้ายกันในห้องฉุกเฉินจนอุปกรณ์ทางการแพทย์เสียหาย คดีดังกล่าวศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน รับสารภาพเหลือ 3 เดือน พฤติการณ์ร้ายแรง ไม่ยำเกรงกฎหมาย ศาลจึงไม่รอลงอาญา
นายโกศลวัฒน์ ย้ำว่า โรงพยาบาลต้องเป็นสถานที่ต้องมีความปลอดภัยกับทุกฝ่าย การใช้พฤติกรรมกร่าง อ้างว่าใหญ่โต ไปทำลายทรัพย์สินของราชการเสียหาย ไปทุบตีทำร้ายบุคคลในโรงพยาบาล เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ ผู้ปกครอง พ่อแม่ของวัยรุ่นควรกำชับและดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าลืมว่ากล้องวงจรปิดจับภาพเป็นหลักฐานทุกอย่าง สามารถฟ้องเอาผิดเรียกร้องค่าเสียหาย เรียกสินไหมทดแทนกับบุตรหลานของท่านได้ทั้งหมด ลูกหลานของท่านมีพฤติกรรมกร่างอย่างไร อัยการก็ต้องบรรยายฟ้องให้เห็นถึงการท้ายทายกฎหมายอย่างละเอียด เพื่อให้ศาลลงโทษสถานหนักที่สุด ยิ่งใครมีประวัติมาก่อนแล้วก็ต้องฟ้องขอให้เพิ่มโทษเข้าไปอีก จึงขอร้องให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ดูแลบุตรหลานให้เป็นคนดี อย่าเกเร จะได้ไม่ต้องทุกข์เพราะลูกหลานติดคุก เสียประวัติ เสียโอกาสในการทำงาน วันนี้คนประวัติดียังหางานทำยาก เสียประวัติเช่นนี้ ยิ่งหางานทำยากเข้าไปอีก ฉะนั้นพ่อแม่ต้องช่วยดูแลให้ดีที่สุดด้วย