นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 กล่าวว่า พื้นที่ที่เกิดอุทกภัยซ้ำซากต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ลุ่มน้ำยัง จึงได้มีการเตรียมรับมือสถานการณ์ด้วยการควบคุมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์บริหารจัดการ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ตั้งศูนย์เฉพาะกิจบูรณาการป้องกันอุทกภัยลุ่มน้ำยัง ขณะนี้สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำยังระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเฉลี่ยประมาณ 2-6 เมตร ประกอบกับอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย ทำให้ยังมีช่องว่างเก็บกักน้ำได้อีกมาก แต่จากการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าฝนจะกลับมาตกชุกตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
นายศักดิ์ศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการชลประทานในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด 12 โครงการร่วมกันสนับสนุนกระสอบทรายโครงการละ 1,000 กระสอบ เพื่อนำไปเตรียมป้องกันและบรรเทา หากเกิดอุทกภัยในลุ่มน้ำยัง ขณะนี้เริ่มขนย้ายเข้าไปไว้ให้ประชาชนอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว รวมทั้งเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังคนให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีหากเกิดอุทกภัย
ด้านนางสุวรรณรี วิสัยเกตุ ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่างาม ตำบลวังหลวง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ชาวบ้านท่างามรู้สึกอุ่นใจมากที่กรมชลประทานเตรียมความพร้อมในการรับมือปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เจ้าหน้าที่ชลประทานได้เข้ามาแจ้งเตือนสถานการณ์และนำเครื่องมือเข้ามาประจำอยู่ในพื้นที่ ขณะนี้ได้รับกระสอบทรายมาประจำไว้ในหมู่บ้านก่อนที่น้ำจะมา หากน้ำหลากจะนำมาเรียงเพื่อป้องกันน้ำท่วมได้ทันท่วงที