สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,269 คน จากทั่วประเทศ เรื่อง "ประชาชนคิดอย่างไร ? กับกระแสข่าวการปรับ ครม." ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถูกพูดถึงอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 1 ปี ของรัฐบาลประยุทธ์ 2 ทำให้หลายคนมองว่าอาจถึงเวลาที่จะต้องปรับเปลี่ยนการบริหารงานของรัฐบาลเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จากผลการสำรวจพบว่า ผลงานรัฐบาลที่ประชาชนพอใจ/เข้าตา ได้แก่ อันดับ 1 ร้อยละ 50.80 ระบุ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อันดับ 2 ร้อยละ 34.67 ระบุ มาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด-19 อันดับ 3 ร้อยละ 12.93 ระบุ การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้สูงอายุ คนพิการ อันดับ 4 ร้อยละ 8.27 ระบุ ขยายเส้นทางรถไฟฟ้า เส้นทางการคมนาคม และอันดับ 5 ร้อยละ 6.40 ระบุ การควบคุมสถานการณ์ความสงบของบ้านเมือง
ส่วนผลงานรัฐบาลที่ประชาชนยังไม่พอใจ/ต้องปรับปรุง ได้แก่ อันดับ 1 ร้อยละ 61.15 ระบุ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ อันดับ 2 ร้อยละ 22.85 ระบุ ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพสูง ปัญหาความยากจน อันดับ 3 ร้อยละ 13.80 ระบุ การจ่ายเงินช่วยเหลือล่าช้า ไม่ทั่วถึง อันดับ 4 ร้อยละ 12.36 ระบุ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต และอันดับ 2 ร้อยละ 9.60 ระบุ การใช้งบประมาณ การกู้ยืมเงิน ทำให้หนี้เพิ่ม
เมื่อถามว่า ประชาชนพึงพอใจกับผลงานรัฐบาลกรณีโควิด-19 มากน้อยเพียงใด ? อันดับ 1 ร้อยละ 43.58 ค่อนข้างพอใจ เพราะ มีมาตรการที่เข้มงวด ทีมบุคลากรทางการแพทย์มีความรู้ ความสามารถ ประชาชนส่วนมากให้ความร่วมมือ อันดับ 2 ร้อยละ 23.80 พอใจมาก เพราะ ควบคุมสถานการณ์ได้ดี ปลอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ยอดผู้เสียชีวิตไม่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น อันดับ 3 ร้อยละ 22.06 ไม่ค่อยพอใจ เพราะ สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันโควิด-19 ราคาแพง มาตรการต่างๆ ไม่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ขาดความโปร่งใส อันดับ 4 ร้อยละ 10.56 ไม่พอใจเลย เพราะ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ทำงานล่าช้า เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน เศรษฐกิจพัง
และเมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าถึงเวลาหรือยังที่จะต้องมีการปรับ ครม. ? ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 67.85 ระบุว่า ถึงเวลาแล้ว เพราะ เศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าแพง ประชาชนลำบาก คนตกงาน ว่างงาน หนี้สินเยอะ อยากให้มืออาชีพเข้ามาทำงาน เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถมาแก้ปัญหา คัดเลือกคนที่เหมาะสม รองลงมา ร้อยละ 23.40 ระบุว่า ปรับหรือไม่ปรับก็ได้ เพราะ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ปรับหรือไม่ปรับก็น่าจะเหมือนกัน เป็นการหมุนเปลี่ยนตำแหน่งทางการเมือง ขณะที่ร้อยละ 8.75 ระบุว่า ยังไม่ถึงเวลา เพราะ มีเรื่องอื่นที่สำคัญและควรดำเนินการก่อน เร่งแก้ปัญหาอื่นก่อน ทุกคนต้องร่วมมือกันทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน