ยธ.เล็งติดกำไลอีเอ็มผู้ต้องขังชั้นเยี่ยมแก้ปัญหานักโทษล้นคุก

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง มีนักโทษจำนวน 380,000 คน แต่เรือนจำมีพื้นที่รองรับเพียง 220,000 คน และในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้มีการบริหารจัดการพื้นที่ในเรือนจำเพื่อพื้นที่กักเชื้อ และทำเตียง 2 ชั้น เพิ่มพื้นที่ให้ผู้ต้องขังได้มีนอนเพิ่มอีก 80,000 ตารางเมตร แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับนักโทษที่เหลืออีก 80,000 คน ซึ่งตนเห็นว่าอาจจะยังไม่จำเป็นที่ต้องสร้างเรือนจำเพิ่ม แต่จะใช้วิธีคัดกรองนักโทษตามลำดับชั้น ให้เป็นหลักเกณฑ์เงื่อนไขตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ เช่น นักโทษสูงอายุ นักโทษที่มีความประพฤติดีชั้นเยี่ยม และผู้ใกล้พ้นโทษ หรือเหลือโทษจำคุกน้อยด้วยการติดอุปกรณ์ติดตามตัว หรือกำไลอีเอ็ม ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุก อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขคือบุคคลที่ถูกติดกำไลอีเอ็มเมื่อออกมาอยู่ในสังคมแล้วจะต้องไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำ

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมศึกษาการใช้อุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความจุผู้ต้องขัง และการควบคุมผู้ต้องขังออกทำงานนอกเรือนจำ โดยคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวจะมีหน้าที่ศึกษารูปแบบการบริหารจัดการและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้งานขอกำไลอีเอ็ม พร้อมทั้งนำข้อมูลมาวิเคราะห์ประเมินผลและกำหนดแนวทางการใช้กำไลอีเอ็มในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อลดความแออัดของนักโทษในเรือนจำ การบริหารความจุผู้ต้องขัง ประเภท ฐานความผิด พฤติกรรมของผู้ต้องขังขณะที่อยู่ในเรือนจำ โดยจะต้องประสานกับกรมคุมประพฤติและกรมราชทัณฑ์ รวมทั้งมีแผนจัดการการใช้กำไลอีเอ็มให้สอดคล้องกับหลักกฎหมายและการนำไปใช้ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป