นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยผลสำรวจเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ในระหว่างมาตรการผ่อนปรน เพื่อประเมินว่าคนไทยการ์ดตกหรือไม่ และนำข้อมูลไปใช้ในการเฝ้าระวังและปรับมาตรการผ่อนปรนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งสิ้น 407,008 ตัวอย่าง พบว่า คนไทยยังมีความกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 2 ในประเทศ มากที่สุดจากกลุ่มผับ บาร์ คาราโอเกะ รองลงมาตลาดสด ศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนตามลำดับ รวมถึงยังกังวลมาก หากประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 รายต่อวัน อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจในมาตรการของรัฐบาลว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ โดย มั่นใจมากร้อยละ 14.8 มั่นใจร้อยละ 40.5 ไม่มั่นใจนักร้อยละ 28.6 ไม่มั่นใจเลยร้อยละ 10.2 ไม่ทราบ/ไม่แสดงความคิดเห็นร้อยละ 5.9
นายแพทย์ธเรศ เปิดเผยว่า ผลการสำรวจพฤติกรรมการป้องกันตนเองภาพรวมมีแนวโน้มลดลง จากร้อยละ 85.3 ในสัปดาห์ที่ 1 ลดลงเป็นร้อยละ 80.7 ในสัปดาห์ที่ 7 แบ่งเป็นพฤติกรรม 5 ด้าน ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าตลอดเวลา ร้อยละ 87.9 การกินอาหารร้อนช้อนตนเอง ร้อยละ 86.2 การล้างมือบ่อยๆ ร้อยละ 84.9 การระวังตัวไม่อยู่ใกล้ผู้อื่นในระยะ 2 เมตร ร้อยละ 73.4 และการระวังไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก ร้อยละ 72.4
นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนมีแนวโน้มเกิดการรวมกลุ่ม และไปต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนสาเหตุการไม่ลงทะเบียนเข้า-ออกผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ เนื่องจากลืม ไม่มั่นใจความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว และทางร้านไม่มีคิวอาร์โค้ดหรือสมุดลงชื่อไว้ให้
ขณะเดียวกัน ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 88 สนับสนุนการรับคนไทยกลับจากต่างประเทศ และร้อยละ 80 คิดว่ามาตรการ Travel Bubble จะสามารถกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศได้ แต่ร้อยละ 70 ไม่สนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยกับประเทศที่ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำการสำรวจพฤติกรรมการป้องกันตนเองของประชาชนไทยอย่างต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์ อีก 6 ครั้ง ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม – 24 กันยายน 2563 เพื่อนำผลการศึกษามาใช้ในการเฝ้าระวังและปรับมาตรการผ่อนปรนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป