พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจาและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว ส่งผลให้ปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะมีปริมาณรถมากขึ้นพอสมควร แต่คาดว่าน่าจะไม่มากเท่าช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว เนื่องจากปีนี้มีการแบ่งหยุดหลายช่วง
สำหรับแผนจัดการจราจร จะเน้นการจัดเตรียมกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือ และระบบสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชน ให้สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย โดยมีตำรวจทางหลวงรับผิดชอบถนนสายหลัก และตำรวจพื้นที่ดูแลถนนสายรองต่างๆ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกข้อบังคับกำหนดช่องทางเดินรถขาขึ้นและขาล่องในถนนบางสายช่วงวันหยุดต่อเนื่องนี้ แบ่งเป็นขาขึ้น 9 จุด ระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม และขาล่องอีก 17 จุด ระหว่างวันที่ 6-8 กรกฎาคม โดยให้เปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถในช่วงหนาแน่น อีกทั้งช่วงนี้ยังเป็นหน้าฝน จึงกำชับให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับเคลื่อนย้ายรถที่จอดเสีย หรือกีดขวางการจราจร รวมถึงเฝ้าระวังจุดเสี่ยงตามทางขึ้นเขา-ลงเขา ถนนมิตรภาพ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 อรัญประเทศ-นางรอง
ส่วนการบังคับใช้กฎหมายปีนี้ จะเน้นย้ำเรื่องการกวดขันเฝ้าระวังการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ทุกฝ่าย และให้ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดกับผู้กระทำความผิดกรณีเมาแล้วขับ และหากผู้กระทำความผิดเมาแล้วขับมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ขยายผลดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายสุราให้กับเด็กอีกด้วย
สำหรับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ได้ให้ตำรวจสายตรวจ ร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข ออกตรวจสถานีขนส่ง ท่ารถโดยสารสาธารณะทุกประเภท แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่จัดกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งจะมีประชาชนจำนวนมากไปร่วมกิจกรรม โดยต้องมีการจัดระเบียบและลดความแออัดของประชาชน ให้เป็นไปตามมาตรการ รวมไปถึงประชาสัมพันธ์ร้านอาหารที่อยู่ตามปั๊มน้ำมัน ซึ่งจะเป็นจุดแวะพักของประชาชนจำนวนมากระหว่างเดินทาง ให้รักษาความสะอาด มีเจลแอลกอฮล์ และเว้นระยะห่างตามมาตรการอย่างเคร่งครัด