xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อทัวร์มรณะ 18 ศพยังฝันร้าย ภาพเหตุการณ์ตามหลอน ร่างกายบอบช้ำ บริษัทยังไม่จ่ายชดใช้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สมาคมผู้บริโภคจังหวัดขอนแก่น เครือข่ายผู้บริโภคภาคอีสาน และ สสส. เปิดเวทีสภาผู้บริโภคอีสาน การรวมกลุ่มผู้เสียหายกับการยกระดับความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ ยกกรณีทัวร์มรณะ 18 ศพวังน้ำเขียวเป็นกรณีศึกษา ขณะที่ผู้ประสบอุบัติเหตุยังฝันร้าย เรียกร้องเจ้าของรถทัวร์มีจิตสำนึก รับผิดชอบชีวิตผู้โดยสาร

วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ห้องประชุมดอกเกด โรงแรมริมปาว อ.เมืองฯ จ.กาฬสินธุ์ นายธนูสินธุ์ ไชยสิริ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดเวทีสภาผู้บริโภคอีสาน การรวมกลุ่มผู้เสียหายกับการยกระดับความปลอดภัยโดยสารสาธารณะ โดยมี ดร.สุเมธ องกิตติกุล นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย นายกฤษฎา มะลิซ้อน ขนส่ง จ.กาฬสินธุ์ นายวิชาย แท่นหิน ปภ.จ.กาสินธุ์ นายจักริน จรัญรัตนศรี หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนและพัฒนาคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สนง.คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จ.กาฬสินธุ์ นายคงศักดิ์ ชื่นไกรลาศ ตัวแทนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ ผู้จัดการสมาคมผู้บริโภคขอนแก่น ผู้ประกอบการ ภาคประชาชน และผู้ได้รับผลกระทบ จากอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสาร ร่วมเวทีสภาผู้บริโภค “ความทุกข์และข้อเสนอจากอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ”

ทั้งนี้ ผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารส่วนใหญ่ต้องการและเสนอให้ผู้ประกอบการคัดเลือกคนขับ สอบประวัติคนขับอย่างละเอียด ตรวจสอบสภาพรถ เพื่อให้มีความพร้อมในการใช้งาน โดยเฉพาะระบบเบรก สภาพล้อ เบาะนั่ง เข็มขัดนิรภัย และต้องมีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการอย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่าหากผู้ประกอบการมีการเอาใจใส่และบังคับใช้กฎหมายแล้วจะทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง และหากมีการเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงผู้โดยสารจะมีความปลอดภัยมากขึ้น ไม่ต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากเหมือนที่ผ่านมา

ดร.สุเมธ องกิตติกุล นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า เวทีสภาผู้บริโภคภาคอีสาน การรวมกลุ่มผู้เสียหายกับการยกระดับความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถโดยสารสาธารณะ ทั้งส่วนราชการ ผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้โดยสาร ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ที่จะนำไปสู่การป้องกันความถี่และความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุ จึงได้ร่วมกับ จ.กาฬสินธุ์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สมาคมผู้บริโภค จ.ขอนแก่น เครือข่ายผู้บริโภคภาคอีสาน และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีดังกล่าว ทั้งนี้ จากสถิติในแต่ละรอบปีเกิดอุบัติเหตุกว่า 1,000 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตประมาณ 200 ราย

โดยเฉพาะในส่วนของรถโดยสารสองชั้นนั้น ในแต่ละปีประสบอุบัติเหตุไม่น้อยกว่า 60 ครั้ง ซึ่งได้สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก

ดร.สุเมธกล่าวอีกว่า ที่ต้องจัดเวทีที่ จ.กาฬสินธุ์ ครั้งนี้เนื่องจากเกิดโศกนาฏกรรมล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 ที่อำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ผู้ประสบเหตุเป็นผู้โดยสารชาว ต.หลุบ และ ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ เสียชีวิต 18 ศพ บาดเจ็บ 30 ราย จึงได้ยกเป็นกรณีศึกษาถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ และเทียบเคียงกับการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในจุดเกิดเหตุต่างๆ โดยเปิดโอกาสให้ผู้รอดชีวิตหรือมีประสบการณ์จากการเกิดอุบัติเหตุ มาร่วมเวทีถ่ายทอดประสบการณ์ ซึ่งได้ประมวลสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจาก 2 สาเหตุใหญ่คือสภาพความพร้อมของคนขับ และสภาพตัวรถ

ทั้งนี้จะได้เป็นฐานข้อมูลให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะได้เลือกเฟ้นพนักงานขับรถ และตรวจสภาพรถ ให้มีความพร้อมเพื่อความปลอดภัยก่อนให้บริการต่อไป

ด้านนางบุญเส็ง ตรีรักษ์ ชาวบ้าน ต.หลุบ อ.เมืองฯ จ.กาฬสินธุ์ หนึ่งในผู้โดยสารที่รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมทัวร์กันเองมรณะ 18 ศพ กล่าวว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่วันนี้เป็นต้นมา ตนยังอยู่ในอาการฝันร้าย เพราะภาพเหตุการณ์ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุนาทีต่อนาทียังตามหลอนทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เห็นสีหน้าคนขับก่อนเกิดเหตุที่ตาขวางเหมือนคนเสพยา แม้กระทั่งเสี้ยวนาทีที่รถเริ่มแล่นส่าย เห็นขับวิ่งไปกระโดดลงปะตูฉุกเฉิน และเสียงหวีดร้องระงมด้วยความตกใจสุดขีด และเสียงร้องครวญครางของผู้โดยสารที่ร่วมชะตากรรม และมารู้ในตอนหลังว่าก่อนที่รถทัวร์คันนี้จะออกทัวร์เที่ยวมรณะนี้ไม่ได้นำไปตรวจสภาพอีกด้วย

นางบุญเส็งกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อุบัติเหตุครั้งนั้นตนจะไม่เสียชีวิต แต่ทุกวันนี้ก็เหมือนตายทั้งเป็น เนื่องจากมีริ้วรอยความบาดเจ็บทั่วร่างกาย ที่แต่แรกเกิดเหตุหน้าผากยุบ เลือดตกใน บอบช้ำทั่วร่างกาย นิ้วมือขาด ในขณะที่ทุกวันนี้หูอื้อ เดินลำบาก ต้องเทียวไปตรวจร่างกายกับหมอที่ รพ.ขอนแก่นทุกเดือน สิ้นค่าใช้จ่ายเดือนละกว่า 1 หมื่นบาท และต้องเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ ขณะที่ลูกชายต้องหยุดเรียนกลางคัน เพื่อคอยดูแลตนที่ยังช่วยเหลือตนเองไม่ได้

“หลังจากเกิดเหตุจนถึงวันนี้ ดิฉันยังไม่ได้รับเงินสินไหม หรือเงินชดเชยจากบริษัทกันเองทัวร์ การจัดเวทีสภาผู้บริโภคอีสานครั้งนี้ จึงขอเป็นเสียงสะท้อนจากผู้ประสบอุบัติเหตุ เรียกร้องให้บริษัทกันเองทัวร์ออกมาเยียวยาด้วย นอกจากนี้ เพื่อรักษาสิทธิของผู้โดยสาร อยากเรียกร้องให้บริษัททัวร์ทั่วไป มีจิตสำนึกที่ดีต่อผู้รับบริการ โดยมีเลือกเฟ้นคนขับที่มีความพร้อม ตรวจสภาพรถให้มีสภาพใช้งานให้ดีอยู่เสมอ ทำประกันชีวิตให้กับทุกที่นั่งในวงเงินที่สูงขึ้น” นางบุญเส็งกล่าวและระบุอีกว่า

นอกจากนี้ยังขอเรียกร้องให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบ ประสานผู้ประกอบการรถทัวร์ ตั้งกองทุนเพื่อความปลอดภัยและสวัสดิการแก่ผู้ประสบภัยด้วย เพราะปัจจุบันนี้ตนเองเจ็บฟรี ไม่มีสวัสดิการจากไหนเข้ามาดูแลเลย ไม่ใช่ว่าพอไปติดต่อกับเจ้าของกิจการรถทัวร์ หรือปรึกษากับหน่วยงานไหนก็จะได้รับคำตอบว่าหากอยากได้ให้ไปฟ้องเอา


กำลังโหลดความคิดเห็น