MGR Online - ตำรวจวางมาตรการรับมือคลื่นมหาชนเดินทางกลับต่างจังหวัดช่วงวันหยุดยาว เข้าพรรษา-อาสาฬหบูชา วันที่ 4-7 ก.ค.นี้ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์เคลียร์รถเสีย เพิ่มความเข้มตรวจตราการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดำเนินคดีเมาแล้วขับอย่างเฉียบขาด
วันนี้ (2 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกด้านการจราจาและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคมนี้
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะมีปริมาณรถมากขึ้นพอสมควร แต่คาดว่าน่าจะไม่มากเท่าช่วงสงกรานต์ปีที่แล้วเนื่องจากปีนี้มีการแบ่งหยุดหลายช่วง
“สำหรับแผนจัดการจราจรจะเน้นการจัดเตรียมกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือ และระบบสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชนให้สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย โดยมีตำรวจทางหลวงรับผิดชอบถนนสายหลัก และตำรวจพื้นที่ดูแลถนนสายรองต่างๆ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกข้อบังคับกำหนดช่องทางเดินรถขาขึ้นและขาล่องในถนนบางสายช่วงวันหยุดต่อเนื่องนี้ แบ่งเป็นขาขึ้น 9 จุด ระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม และขาล่องอีก 17 จุด ระหว่างวันที่ 6-8 กรกฎาคม โดยให้เปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถในช่วงหนาแน่น อีกทั้งช่วงนี้ยังเป็นหน้าฝน จึงกำชับให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับเคลื่อนย้ายรถที่จอดเสีย หรือกีดขวางการจราจร รวมถึงเฝ้าระวังจุดเสี่ยงตามทางขึ้นเขา-ลงเขา, ถนนมิตรภาพ, ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 อรัญประเทศ-นางรอง” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุ
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ส่วนการบังคับใช้กฎหมายปีนี้จะเน้นย้ำเรื่องการกวดขันเฝ้าระวังการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ทุกฝ่าย และให้ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดต่อผู้กระทำความผิดกรณีเมาแล้วขับ และหากผู้กระทำความผิดเมาแล้วขับมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ขยายผลดำเนินคดีต่อผู้จำหน่ายสุราให้แก่เด็กอีกด้วย
ส่วนมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ได้ให้ตำรวจสายตรวจร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครองและสาธารณสุข ออกตรวจสถานีขนส่ง ท่ารถโดยสารสาธารณะทุกประเภท แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่จัดกิจกรรมทางศาสนาซึ่งจะมีประชาชนจำนวนมากไปร่วมกิจกรรม โดยต้องมีการจัดระเบียบและลดความแออัดของประชาชนให้เป็นไปตามมาตรการ รวมไปถึงประชาสัมพันธ์ร้านอาหารที่อยู่ตามปั๊มน้ำมันซึ่งจะเป็นจุดแวะพักของประชาชนจำนวนมากระหว่างเดินทาง ให้รักษาความสะอาด มีเจลแอลกอฮล์ และเว้นระยะห่างตามมาตรการอย่างเคร่งครัด