พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงมาตรการด้านการจราจรเพื่อรองรับเปิดภาคเรียนพรุ่งนี้ (1 ก.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าให้คืนพื้นผิวการจราจรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างให้มากที่สุด และวันพรุ่งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะจัดกำลังตำรวจจราจรไปตามถนนสายสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกและเร่งระบายรถ รวมทั้งป้องปรามไม่ให้ประชาชนละเมิดกฎหมายจราจร นอกจากนี้ ทางกองบังคับการตำรวจจราจรได้เตรียมรถยกเพื่อเคลื่อนย้ายรถจอดเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ ส่วนปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังสำนักระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าจะไม่ให้มีน้ำท่วมขังบนพื้นผิวการจราจร หากเกิดปัญหาน้ำท่วมขังจะระบายน้ำออกโดยเร็ว และที่สำคัญคือ ประชาชนต้องรักษาวินัยจราจรและมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันในการใช้รถใช้ถนน
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ในส่วนของพื้นที่ถนนสาทร และถนนสามเสน ซึ่งมีสถานศึกษากระจุกตัวอยู่จำนวนมาก และยังเชื่อมต่อไปยังทางขึ้นลงสะพานข้ามฝั่งกรุงเทพมหานครกับฝั่งธนบุรีนั้น ในส่วนของสะพานกรุงธนบุรี (ซังฮี้) จะมีการเปิดช่องทางพิเศษฝั่งขาเข้าเพิ่มอีก 1 ช่องทางในช่วงเช้า เพื่อเร่งระบายรถที่ต้องการข้ามจากฝั่งธนบุรีมายังกรุงเทพมหานครได้มากขึ้น ขณะที่ถนนลอยฟ้าบรมราชชนนี ที่มุ่งหน้ามายังสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ก็จะเปิดช่องทางพิเศษเป็นการจราจรเข้าเมืองทั้งหมดในช่วงเช้า ซึ่งจะทำให้ปริมาณรถจากพื้นที่ปริมณฑลเข้าสู่กรุงเทพมหานครได้สะดวกมากขึ้น ขณะที่บริเวณหน้าสถานศึกษาทุกแห่งจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่จัดระเบียบการจราจร โดยหากถนนที่มีความกว้างมากพอ จะกันพื้นที่ 2 ช่องทางซ้ายสุด ให้เป็นจอดรถรับส่งนักเรียน ขณะที่ช่องทางขวาจะใช้สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องสัญจรผ่านบริเวณดังกล่าว จึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ช่องทางตามความจำเป็นของตนเองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถตัดกระแสกัน
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้ปกครองศึกษาเส้นทางและสภาพการจราจรล่วงหน้า โดยสามารถสอบถามมาได้ที่สายด่วนจราจร 1197 และเผื่อเวลาเดินทางอย่างน้อย 30-45 นาที เตรียมอุปกรณ์การเรียนและกระเป๋าของบุตรหลานให้เรียบร้อย หากต้องการจะแสดงความรักความห่วงใยกับบุตรหลาน ขอให้ทำให้เสร็จก่อนถึงหน้าโรงเรียน เพื่อให้ใช้เวลารับส่งบุตรหลานไม่เกิน 1 นาที ในส่วนของสถานศึกษาก็จะมีการจัดอาสาสมัคร รุ่นพี่หรือผู้ปกครองอาสา คอยช่วยเหลือนักเรียนหรือเด็กเล็กในการช่วยยกกระเป๋าและนำทางน้องๆ ก่อนเข้าโรงเรียน
นอกจากนี้ ตำรวจยังได้ประสานสถานศึกษาทุกแห่ง ตั้งจุดคัดกรองเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้านในพื้นที่โรงเรียน ห่างจากประตูทางเข้าอย่างน้อย 50-100 เมตร เพราะหากมีการตั้งจุดตรวจบริเวณด้านหน้าประตูโรงเรียน ซึ่งติดกับถนน จะก่อให้เกิดปริมาณนักเรียนสะสมออกันบริเวณจุดคัดกรอง และส่งผลต่อปริมาณรถติดสะสมบริเวณหน้าโรงเรียน
