xs
xsm
sm
md
lg

'บิ๊กแป๊ะ'ทำหนังสือเรียกตัว ตร.อารักขา-ช่วยราชการ กลับต้นสังกัดภายใน 7 วัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ทำหนังสือถึง จตช. และ รอง ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผอ./หน.ทุกศูนย์ปฏิบัติการ เรื่องการปรับปรุงประสิทธิภาพงานสอบสวน โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า

ด้วย ตร. มีนโยบายที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพงานสอบสวนนื่องจากปัจจุบันประสบปัญหาการขาดแคลนข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวน โดยมีสาเหตุหนึ่งมาจากผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจ หรือหน่วยต่างๆ มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นที่มีใช่งานสอบสวน ทำให้เกิดผลกระทบต่อการบริการประชาชนในการอำนวยความยุติธรรม ดังนั้นเพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมกับประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับเพื่อให้การบริหารงานบุคคลในภาพรวม ตร. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ดำเนินการ ดังนี้

1. ยกเลิกคำสั่งที่สั่งการให้ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนไปปฏิบัติราชการใน ตร.และการไปช่วยราชการนอกสังกัด ตร. การไปปฏิบัติราชการ หรือการอนุมัติเดินทางไปปฏิบัติราชการของศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ รวมถึงการไปรักษาความบลอดภัยบุคคลสำคัญทุกกรณี เว้นแต่

1.1 คำสั่งให้ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนในสถานีตำรวจไปปฏิบัติราชการงานสอบสวนในสถานีตำรวจ

1.2 คำสั่งให้ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนที่ไม่ใช่ในสถานีตำรวจไปปฏิบัติราชการงานสอบสวนในสถานีตำรวจหรืองานสอบสวนอื่น

1.3 คำสั่งให้ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนที่มีกรณีเป็นที่สงสัยว่าประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ หรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำความผิดทางวินัย หรืออยู่ระหว่างต้องหาในคดีอาญา หรือ ถูกฟ้องคดีอาญา หากให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิม อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ ทั้งนี้ ให้ส่งตัวข้าราชการตำรวจกลุ่มดังกล่าวกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งเดิม ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่สั่งการนี้
กรณีการช่วยราชการนอกสังกัด ตร.ให้ สกพ. มีหนังสือแจ้งให้ส่วนราชการ หรือหน่วยงานที่ขอตัวข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ส่งตัวข้าราชการตำรวจกลุ่มดังกล่าวกลับต้นสังกัด สำหรับการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ให้ บช.ส. ดำเนินการ

ให้หัวหน้าสถานีตำรวจ หรือผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดระดับ บก.แล้วแต่กรณี ติดตามข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนที่ถูกยกเลิกคำสั่งข้างต้น กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งเดิมทุกราย ภายใน  7 วัน นับตั้งแต่วันที่สั่งการนี้ หากข้าราชการตำรวจดังกล่าวยังไม่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ให้รายงาน ตร.(ผ่าน สกพ.) ทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่สั่งการนี้

2 .ห้ามมิให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจทุกระดับชั้น สั่งให้ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวน ไปปฏิบัติราชการใน ตร. หรือการปฏิบัติหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ การไปช่วยราชการนอกสังกัด ตร. รวมถึงการไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เว้นแต่เป็นการสั่งการ ตามข้อ 1.1 ถึง 1.3 หรือมีเหตุผลความจำเป็นอย่งยิ่ง ตร. จะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายไป

3. ให้หัวหน้าสถานีตำรวจ จัดให้ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนทุกราย อยู่ปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรสอบสวน โดยให้ปฏิบัติหน้าที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ตามประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 25 เวรยาม สายตรวจ กองรักษาการณ์ บทที่ 8 พนักงานสอบสวนเวร เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง และกำชับให้หัวหน้าสถานีตำรวจควบคุม กำกับดูแล

การปฏิบัติของข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนอย่างเคร่งครัด ตามคำสั่ง ตร ที่ 354/2562 ลง 20 มิ.ย.62 เรื่อง หน้าที่รับผิดชอบในการอำนวยความยุติธรรมทางอาญาของหัวหน้าพนักงานสอบสวน

4. กรณีจำเป็นอย่างยิ่งที่ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนได้ตามปกติ ในการเบิกจ่ายเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษให้แก่ข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวนและปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวน ให้หน่วยต่าง ๆ ดำเนินการเป็นไปด้วยความถูกต้องและตามความเป็นจริง โดยยึดถือระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสอบสวน พ.ศ.2559 อย่างเคร่งครัด และหากตรวจพบว่ามีการฝ่าฝืน จะพิจารณาข้อบกพร่องผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น

5.ให้ จต. สตส และผู้บังคับบัญชาระดับ บช. และ บก. ที่รับผิดชอบงานจเรตำรวจตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเวรทุกรายแล้วบันทึกผลการตรวจให้ชัดเจน โดยผลการตรวจสอบจะต้องสอดคล้องกับสถิติการรับคดีในระบบ CRIMES และคำสั่งการให้ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรโดยหากพบข้อบกพร่องให้ดำเนินการทางวินัยตามอำนาจหน้าที่ แล้วรายงานให้ ตร. ทราบ เพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด